ดัชนีดาวโจนส์ เปิดแดนบวกนักลงทุนจับตามาตร การปลดล็อกดาวน์-เงินเฟ้อดิ่ง

  • นักลงทุนจับตาการทยอยเปิดเมืองในสหรัฐ หลัง WHO ระบุหลายประเทศมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่ม
  • ซีอีโอโบอิ้ง เผยสายการบินขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของสหรัฐจะประสบภาวะล้มละลายในปีนี้
  • ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปดิ่งลง 0.8%ต่ำสุดตั้งแต่วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์

เมื่อเวลา 21.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 24,310.84 จุด เพิ่ม 88.85 จุดหรือ +0.37% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 9,185.64 จุด ลดลง 6.71 จุด หรือ -0.07% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 2,928.95 จุด ลดลง 1.37 จุด หรือ -0.05%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังปรับตัวไร้ทิศทางที่ชัดเจน โดยนักลงทุนจับตาการทยอยเปิดเมือง และผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์กิจการในสหรัฐ หลังองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า หลายประเทศมีการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น หลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีน, เกาหลีใต้ และเยอรมนีได้ดีดตัวขึ้นอีกครั้ง หลังรัฐบาลประกาศคลายมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ

ด้านนายเดฟ คาลฮูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทโบอิ้ง กล่าววันนี้ว่า เขาเชื่อว่าสายการบินขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของสหรัฐจะประสบภาวะล้มละลายในปีนี้ อย่างไรก็ดี นายคาลฮูนไม่ได้เปิดเผยชื่อสายการบินดังกล่าว

ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงซบเซาต่อเนื่อง จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยในวันนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปดิ่งลง 0.8% ในเดือนเม.ย.เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในเดือนธ.ค.2551 และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนมี.ค.

ดัชนี CPI ทั่วไปได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน รวมทั้งราคาตั๋วเครื่องบิน และห้องพักโรงแรม โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ทั่วไปยังคงเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนมี.ค.