ดัชนีดาวโจนส์ เปิดตลาดบวกกว่า 100 จุด ติดตามข้อตกลงการค้า-เศรษฐกิจสหรัฐแจ่มใส

  • นักลงทุนรอดูสานการณ์ ชี้ยังไม่มั่นใจ จีน-สหรัฐฯ เจรจาการค้ารอบนี้สำเร็จ
  • ขณะที่ที่ปรึกษาทำเนียบขาว ระบุ การทำข้อตกลงเฟสแรกกับจีนอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย
  • ตลาดหุ้นเริ่มมีกำลังซื้อเข้ามาเพิ่มใหม่ หลังยอดค้าปลีกดีดตัว

เมื่อเวลา 22.25 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 27,899.37 จุด เพิ่มขึ้น 117.41 จุด หรือ +0.42% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 3,108.85 จุด เพิ่มขึ้น 12.22 จุด หรือ+0.39% ด้านดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท เคลื่อนไหวอยู่ที่ 8,522.08 จุด เพิ่มขึ้น 43.07 จุด หรือ +0.51% นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าการเจรจาการค้า ในขณะที่มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังเติบโตได้แข็งแกร่ง

วันนี้ นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า การเจรจาทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายยังคงติดต่อกันอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนได้จัดการประชุมทางวิดีโอระดับคณะทำงานในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่รายละเอียดและกำหนดเวลาที่จีนจะซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ เช่น เนื้อหมูและถั่วเหลือง ไปจนถึงประเด็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา

ทั้งนี้ แม้ฝั่งสหรัฐฯ จะออกมาระบุถึความคืบหน้า นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยก่อนหน้านี้มีรานงานว่าการเจรจายังคงเผชิญอุปสรรคจากการที่สหรัฐเรียกร้องให้จีนซื้อสินค้าเกษตรมากขึ้น ขณะที่จีนปฏิเสธเงื่อนไขของสหรัฐที่ต้องการให้จีนยุติการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี และจีนยังเรียกร้องให้สหรัฐระงับการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรก

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเป็นไปในทิศทางที่ดี ส่งผลให้นักลงทุนกล้าซื้อหุ้นมากขึ้น หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% โดยเเป็นการปรับขึ้นอีกครั้ง หลังจากเดือน ก.ย.ที่ผ่านมายอดค้าปลีกตกลงรุนแรงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

ทั้งนี้ การดีดตัวขึ้นของยอดค้าปลีกในเดือนต.ค.ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์ และราคาพลังงาน เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนต.ค. ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนก.ย.

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ปรับตัวลง 1.1 จุด สู่ระดับ 2.9 ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะปรับตัวสู่ระดับ 5.0 ในเดือนพ.ย. ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงไม่มีความเชื่อมั่นต่อภาวะธุรกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน