ดัชนีดาวโจนส์ ปิดบวกเล็กน้อย นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ท่ามกลางโควิดรอบ 2



  • นักลงทุนติดตามการประชุมประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ็กสัน โฮล 27-28 ส.ค.นี้เพื่อจับทิศทางเศรษฐกิจ
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการดีดขึ้นสูงสุดในรอบ 18 เดือน
  • แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีต่อเนื่อง หนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ

เมื่อเวลา 21.25 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวผัันผวนทั้งในแดนลบ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 27,772.19 จุด เพิ่มขึ้น 32.46 จุด หรือ +0.12% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,285.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.05 จุด หรือ 0.20% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,386.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.94 จุด หรือ +0.03%

มีแรงเทขายและแรงซื้อสลับกันในการเปิดตลาดช่วงแรกของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยนักลงทุนยังคงกังวลกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ามกลางการระบาดรอบ 2 ของโควิด-19 ในหลายๆ ประเทศ โดยนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 27-28 ส.ค.เพื่อจับทิศทางเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนของเฟดที่จะช่วยดูแลเศรษฐกิจในอนาคต

โดยการประชุมดังกล่าวจะปรับรูปแบบเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในหัวข้อ “Navigating the Decade Ahead: Implications for Monetary Policy” ซึ่งถือเป็นการปรับรูปแบบการประชุมครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ตลาดมีแรงหนุนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่อง ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 54.7 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน จากระดับ 50.3 ในเดือนก.ค.

โดยดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะขยายตัว ทั้งภาคการผลิตและบริการ โดยภาคบริการมีการขยายตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากมีการปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการดีดตัวขึ้นของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่ และความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ

เช่นเดียวกับดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 53.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือน จากระดับ 50.9 ในเดือนก.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 54.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน จากระดับ 50.0 ในเดือนก.ค.

นักลงทุนยังคงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่อเนื่อง เนื่องจากเห็นว่า เป็นหุ้นที่ได้อานิสงส์ที่ดีทั้งจากช่วงการรักษาระยะห่างเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังเปิดเศรษฐกิจเช่นกัน