ดัชนีดาวโจนส์ไปต่อไม่ไหวเจอพิษเจรจาการค้า ล่มสกัดเปิดในแดนลบ

  • เอสแอนด์พี 500 ตลาดหุ้นแนสแด็กเคลื่อนไหวแดนลบ
  • ตลาดไม่มั่นการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯที่ดำเนินมากว่า 1 เดือนจะมีข้อสรุป
  • หุ้นขนาดใหญ่ซื้อขายสูงพาเหรดติดลบ

หลังจากที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯทำลายสถิติสูงสุดอีกครั้ง โดยปิดทะลุ 28,000 จุดเป็นครั้งแรก ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เปิดตลาดในวันจันทร์ ตลาดไม่สามารถบวกต่อได้ โดยแกว่งตัวทั้งบวกและลบ เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 28,004.59 จุด ติดลบ 0.30 จุด หรือ-0.00%

ขณะที่อีกสองตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ลดลงเช่นกัน ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 3,115.55 จุด ลดลง 4.91 จุด หรือ -0.16% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท เคลื่อนไหวอยู่ที่ 8,515.56 จุดปรับตัวลดลง 25.27 จุด หรือ -0.30%

นักลงทุนยังมีมีความสงสัย ในความสำเร็จของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เพื่อหาข้อตกลงการค้ารอบใหม่ที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างกันในช่วงก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ข่าวที่ออกมาในแต่ละฝ่ายการเจรจายังไม่ชัดเจน และไม่สามารถตกลงตรงกันได้ แม้ว่าจะมีการเจรจากันมายาวนานกว่า 1 เดือน

โดยหุ้นที่ติดอันดับการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นหุ้นแอปเปิล ไมโครซอฟท์ กูเกิล ซิตี้กรุ๊ป และจีอี ต่างปรับตัวลดลงทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ตลาดยังคงจับตามองกระบวนการตั้งข้อกล่าวหาประธานาธิบดี และการถอนถอดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังเดินหน้าไปอย่างช้าๆ

ล่าสุดสำนักข่าว CNBC รายงานว่า บรรยากาศการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในกรุงปักกิ่งอยู่ในภาวะอึมครึม เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ปฏิเสธที่จะยกเลิกการปรับเพิ่มภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน

ผู้สื่อข่าว ระบุโดยอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลจีนว่า บรรยากาศการเจรจาการค้าในกรุงปักกิ่งไม่สดใส โดยจีนมีความไม่พอใจต่อการที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าจะไม่มีการยกเลิกการเก็บภาษีต่อสินค้าจีน ซึ่งจีนมองว่าทั้งสองฝ่ายเคยตกลงกันในเรื่องนี้แล้ว

ขณะที่กลยุทธ์ในการเจรจาในขณะนี้คือ ทำการเจรจา แต่ให้รอต่อไป เนื่องจากยังมีหลายปัจจัย เช่น การถอดถอนประธานาธิบดี และการเลือกตั้งในสหรัฐ