- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ นิ่งแทบไม่ขยับ รอติดตามทิศทางดอกเบี้ย-เศรษฐกิจสหรัฐฯ
- นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยี
- ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปลายเดือนนี้
นักลงทุนจับตาผลประกอบการ 5บริษัท ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีจะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ไมโครซอฟท์ แอปเปิ้ล เมตา อะเมซอน และอัลฟาเบท โดยบริษัทดังกล่าวเป็นผู้นำการดีดตัวขึ้นของตลาดตั้งแต่ต้นปีนี้ ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอติดตามทิศทางดอกเบี้ย ในการประชุมคณะกรรมการนโยบยายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 30-31 ม.ค.นี้
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 38,128.94 จุด เพิ่มขึ้น
19.51 จุด หรือ บวก 0.05% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,892.89 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด หรือ 0.04% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 15,460.91 จุด เพิ่มขึ้น 5.55 จุด หรือ 0.04%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงในวันนี้ สวนทางการแข็งค่าของดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 30-31 ม.ค.
ทั้งนี้ ผลการสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า นักวิเคราะห์ทั้ง 123 คนในการสำรวจคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 30-31 ม.ค.
ขณะที่ 86 รายคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 2 นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ 55 รายคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ขณะที่ 31 รายคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค. และมีเพียง 16 รายที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ส่วนนักวิเคราะห์ที่เหลือคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง
นักลงทุนขายหุ้น ออกมาลดความเสี่ยง หลังผลการสำรวจดังกล่าวพบว่านักวิเคราะห์คาดการณ์กำหนดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดช้ากว่าที่ตลาดคาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในเดือนพ.ค.
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจพบว่า นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งรวม 1.00% ในปีนี้ ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้งรวม 1.25% ในปีนี้
