ดัชนีดาวโจนส์แกว่งตัวแคบ ทั้งแดนบวกและลบ โควิด-19 ระบาดรอบ2 vs ความคืบหน้ายาต้านไวรัส



  • นักลงทุนยังเทขายหุ้นลดความเสี่ยง หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่พุ่งขึ้นมาก จ่อปิดเศรษฐกิจรอบ 2
  • ด้านผลการทดลองพบว่า ยา remdesivir ลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ถึง 62% หนุนแรงซื้อตลาด
  • ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐฯปรับตัวลง 0.2% ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักิวิเคราะห์คาด

เมื่อเวลา 21.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 25,704.17 จุดลดลง 1.92 จุด หรือ -0.01% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปรับตัวเลดลงหลังทำลายสถิติสูงสุดใหม่ในวันวานที่ผ่านมา โดยเคลื่อนไหวที่ 10,475.58 จุด ลดลง 72.17 จุด หรือ -0.68% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 3,143.56 จุด ลดลง 8.49 จุด หรือ -0.27%

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวผันผวน แกว่งตัวแคบๆทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน โดบมีแรงซื้อกลับเข้ามา หลังหุ้นบริษัท Gilead Sciences Inc พุ่งขึ้นแรง จากการเปิดเผยผลการทดลอง ที่พบว่า ยา remdesivir สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ถึง 62% เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีมาตรฐาน Ffp ยา remdesivir ได้รับการยอมรับในหลายประเทศ โดยรัฐบาลสิงคโปร์ ญี่ปุ่นและอินเดีย ต่างก็ให้การอนุมัติการใช้ยา remdesivir ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง ทำให้นักลงทุนมีความหวังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 41 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่พุ่งขึ้นมากกว่า 63,000 คนในวันเดียว ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลต่อการระบาดระลอก 2 ที่รุนแรงขึ้น และเทขายหุ้นออกมา โดยมองว่า การระบาดรอบสองอาจจะทำให้มีการตัดสินใจปิดเศรษฐกิจบางส่วนอีกครั้งเพื่อลดการแพร่นระบาด ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มมากขึ้น

นายดัก ดูซีย์ ผู้ว่าการรัฐแอริโซนาได้ออกคำสั่งให้ร้านอาหารเปิดให้บริการเพียงครึ่งเดียว ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งขึ้นเป็น 2 เท่าในระยะ 2 สัปดาห์ ขณะที่นายเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ได้ขยายขอบเขตการใช้คำสั่งระงับการผ่าตัดแบบไม่เร่งด่วนในโรงพยาบาล เพื่อสำรองเตียงไว้สำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19

หุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลดีจากการคลายล็อกดาวน์ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ปรับตัวลดลงแรงอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลง 0.2% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค.ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมาย ทั้งนี้ เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI ปรับตัวลง 0.8% ในเดือนมิ.ย. หลังจากร่วงลง 0.8% เช่นกันในเดือนพ.ค.