

.เจพีมอร์แกน เห็นโอกาสมากขึ้น “ทรัมป์”อาจะตีตื้นชนะ “ไบเดน”
.หุ้นเทคโนโลยียังแรงดีไม่มีตก นักลงทุนยังกระหน่ำซื้อต่อเนื่อง
.ตลาดจับตาภาวะเศรษฐกิจ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
เมื่อเวลาประมาณ 21.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวนทั้งในแดนลบ และแดนบวก โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 28,424.06 จุด ลดลง 5.99 จุด หรือ -0.02%ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,876.73 จุด เพิ่มขึ้น 101.28จุด หรือ +0.86% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,506.45 จุด บวก 6.14 จุด หรือ +0.18%
ตลาดเริ่มมีความกังวลต่อราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และอาจจะสูงกว่าพื้นฐานเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าๆ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้มีแรงเทขายหุ้นต่อเนื่องในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์อยู่ในแดนลบ
ขณะที่ในฝั่งของการเมือง ความไม่แน่นอนเริ่มมีมากขึ้น โดยเฉพาะผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องถึงมาตรการในการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะต่อไป
นายมาร์โค โคลาโนวิก นักวิเคราะห์ของบริษัทเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่า นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับโอกาสมากขึ้นที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2 เพราะขณะนี้ โอกาสของ “ทรัมป์” ที่จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัย 2 นั้นได้ตีตื้นขึ้นมาเกือบเสมอนายโจ ไบเดน หลังจากที่ก่อนหน้านี้โอกาสชนะของทรัมป์ยังเป็นรองคู่ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง หนุนดัชนีแนสแด็กขึ้นต่อเนื่องโดยมองว่าเป็นหุ้นกลุ่มที่ยังได้ประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ต่อเนื่อง รวมทั้งการเข้ามา 3 บริษัทใหม่
สื่อต่างประเทศรายงานว่า บริษัทกูเกิล และเฟซบุ๊ก ตัดสินใจระงับโครงการวางระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างสหรัฐและฮ่องกง หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐออกมาเตือนว่า จีนอาจใช้โครงการดังกล่าวล้วงข้อมูลจากชาวอเมริกัน และหลังจากกูเกิลและเฟซบุ๊กได้ระงับโครงการดังกล่าวแล้ว ทั้งสองบริษัทก็ได้ยื่นขออนุมัติโครงการใหม่ ซึ่งรวมถึงการวางระบบเคเบิลไปยังไต้หวันและฟิลิปปินส์
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 1.255 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค.