

- นักลงทุนติดตามการให้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ระดับสูงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หาทิศทางดอกเบี้ย
- บรรยากาศในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึมๆ แกว่วตัวแคบๆ ทั้งแดนบวกและแดนลบ
- ตลาดจับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศออกมา-จับตาจีนป่วนเศรษฐกิจโลก
เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,771.21 จุด เพิ่มขึ้น 25.52 จุด หรือ +0.08% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,107.15 จุด ลดลง 38.91 จุดหรือ -0.35% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,957.16 จุด ลดลง 8.18 จุด หรือ -0.21%
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกที่จะทยอยประกาศออกมา รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ตลาดยังติดตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธ เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ราคาหุ้นของบริษัทวอลท์ ดิสนีย์พุ่งขึ้นกว่า 8% ขานรับการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของนายบ็อบ ไอเกอร์ นักวิเคราะห์คาดว่าการกลับมาของนายไอเกอร์จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน โดยนายไอเกอร์เคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดิสนีย์นานถึง 15 ปี โดยมีผลงานในการเข้าซื้อกิจการ Pixar, Lucasfilm และMarvel ซึ่งต่างก็เป็นสินทรัพย์ที่ทำเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้แก่ดิสนีย์
มาตรการต่อต้านการแพร่ระบาดโควิดในจีนกลับมากดดันเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง โดยโกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในไตรมาส 4 สู่ระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน ซึ่งจะทำให้มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ และส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ความไม่ชัดเจนของกลุ่ม G7 ในการใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย เป็นอีกสาเหตุที่ฉุดราคาน้ำมันในไตรมาสที่ 4 ลง