

- นักลงทุนติดความคืบหน้าตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ
- หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ถูกเทขาย ตลาดคาดเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้น
- ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังออกมาทิศทางที่ดี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 9 ก.พ. ที่ 31,375.83 จุด ลดลง 9.93 จุด หรือ -0.03% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 3,911.23 จุด ลดลง 4.36 จุด หรือ -0.11% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 14,007.70 จุด เพิ่มขึ้น 20.06 จุดหรือ +0.14%
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นติดต่อกัน 6 วันทำการก่อนหน้านี้ และทำนิวไฮเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ตลาดติดตามความคืบหน้าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมททั้งผลของการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ในสหรัฐ
ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.52% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.17% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ดิ่งลง 3.14% หุ้นเชฟรอน ลบ 0.6%
หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นดังกล่าวและโยกย้ายการลงทุนไปยังธุรกิจประเภทอื่นๆที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนโดยหุ้น Nvidia ร่วงลง 1.22% หุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 0.66% หุ้นอัลฟาเบท ขยับลง 0.44% หุ้นไมครอน เทคโนโลยีลดลง 0.82%
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นกลุ่มสื่อสารดีดตัวขึ้น และโดยหุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 2.94% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 2.03% หุ้นเฟซบุ๊ก ปรับตัวขึ้น 1.08%
หุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนพุ่งขึ้นต่อเนื่อง หลังจากบริษัทเทสลาประกาศซื้อบิตคอยน์เพื่อกระจายการลงทุน โดยหุ้น Long Blockchain ทะยานขึ้น 40.46% หุ้น Riot Blockchain พุ่งขึ้น 21.56% หุ้น Marathon Patent พุ่งขึ้น 17.21% อย่างไรก็ดีหุ้นเทสลาปิดตลาดลดลง 1.62% เนื่องจากคำสั่งขายทำกำไร
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัททวิตเตอร์และซิสโก้จะรายงานผลประกอบการหลังจากตลาดปิดทำการซื้อขาย ขณะที่รายงานระบุว่า ในบรรดาบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ได้เสร็จสิ้นการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 4/2563 นั้น มีจำนวน 83.6% ที่รายงานตัวเลขรายได้และกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน(JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.65 ล้านตำแหน่งในเดือนธ.ค. จาก 6.572 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ย.