.ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI เดือน พ.ค. พุ่งขึ้น 8.6% สูงกว่านักวิเคราะห์คาด
.นักลงทุนกังวลเงินเฟ้อที่สูงมาก จะทำให้เฟดต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด
.มีแรงเทขายหุ้นออกมาแดงทั้งกระดาน ลดความเสี่ยงรอดูสถานการณ์
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,514.28 จุด ดิ่งลงแรง 758.51 จุด หรือ -2.35% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,365.14 จุด ลดลง 389.09 จุด หรือ -3.31% Today’s Change ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวหลุด 4,000 จุด ล่าสุดอยู่ที่ 3,910.82 จุด ลดลง107.00 จุด หรือ -2.66%
ตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ในภาวะตื่นตระหนก นักลงทุนเทขายหุ้นทุกกลุ่ม รับข่าวร้ายจากเงินเฟ้อที่พุ่งไม่หยุด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 40 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2524 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3%
ดัชนี CPI ดังกล่าวสูงกว่าระดับ 8.3% ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าระดับ 8.5% ที่ทำไว้ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2524 เทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนพ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.7%
ด้านดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9% เทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.5%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาดิ่งลงแรงจากความตื่นตระหนกดังกล่าว โดยนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ในวันที่ 14-15 มิ.ย. โดยก่อนการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว รวมทั้งในการประชุมเดือนก.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำนวนหนึ่งมองว่า เฟดอาจจะเร่งขึ้นแรงและเร็วกว่าที่คาดหมายไว้ เพื่อลดแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่สูงมาก และเป็นสาเหตุให้เกิดการชะลอของเศรษฐกิจมากกว่าที่คาดไว้เช่นกัน
