ดัชนีดาวโจนส์พุ่งแรง 1,293 จุด ธนาคารกลางทั่วโลกผนึกกำลังสู้โควิด-19

  • ธนาคารกลางสหรัฐ-ญี่ปุ่น-อียูประกาศพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ไอเอ็มเอฟ-เวิลด์แบงก์ เล็งช่วยดูแลประเทศยากจน
  • นักลงทุนคาดธนาคารกลางสหรัฐลดดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือนนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันแรกของสัปดาห์ใหม่ด้วยความหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางและรัฐบาลทั่วโลก เพื่อลดผลกระทบของไวรัสโควิด-19 โดยปิดตลาดที่ 26,703.32 จุด พุ่งขึ้น 1,293.96 จุด หรือ +5.09% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,090.23 จุด เพิ่มขึ้น 136.01 จุด หรือ +4.60% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 8,952.17 จุด เพิ่มขึ้น 384.80 จุด หรือ+4.49%

ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติทะยานขึ้นสูงสุดในวันเดียวนับตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. 2552 ตลาดได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า ธนาคารกลางทั่วโลกจะผนึกกำลังร่วมกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก ออกมาตรการเพื่อรับมือกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19

ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดให้คำมั่นว่า เฟดจะใช้เครื่องมือและมาตรการที่เหมาะสมเพื่อหนุนเศรษฐกิจ ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้นักลงทุนมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน 100%ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค.นี้และอาจจะลดต่อเนื่องอีก2ครั้งในปีนี้

เช่นเดียวกับนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยืนยันว่า BOJ จะใช้ความพยายามในทุกทางเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน ซึ่งรวมถึงการจัดหาสภาพคล่องอย่างเพียงพอ และสร้างความเชื่อมั่นว่าตลาดการเงินจะยังคงมีเสถียรภาพ

ด้านนายหลุยส์ เดอ กวินโดส รองประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เพิ่มความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และ ECB พร้อมที่จะออกมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว

ไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลก ประกาศความพร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศสมาชิกในการเยียวยาผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะประเทศยากจนที่มีระบบสาธารณสุขอ่อนแอมากที่สุดและประชากรมีความเสี่ยงมากที่สุด โดยจะรวมถึงการให้เงินทุนฉุกเฉิน การให้คำปรึกษาด้านนโยบาย และการช่วยเหลือทางเทคนิค

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นำโดยหุ้นแอปเปิล ทะยานขึ้น 9.3% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 6.6% หุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 4.8% หุ้น Nvidia บวก 2.3% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 2% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 3.7% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 3.5% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) พุ่งขึ้น 4.3%

หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 3% หลังจากนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นจีอีขึ้นสู่ระดับ “overweight” จากระดับ “neutral”

หุ้น Gilead Sciences ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาต้านเอดส์รายใหญ่ของโลก พุ่งขึ้น 8.7% หลังจากทางบริษัทประกาศแผนเข้าซื้อกิจการของ Forty Seven Inc ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารักษาโรคมะเร็ง ขณะที่ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้น Forty Seven Inc ทะยานขึ้น 62%

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 11.3% เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากราคาหุ้นเทสลาร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19