ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 580 จุด ดีใจเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแล้ว

. ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI เดือน ก.ค.เพิ่ม 8.5% ต่ำกว่าคาด
. นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นคึกคัก มองแรงกดดันลด เฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย
.ตลาดจับตาเศรษฐกิจสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบโลกลดลงต่อเนื่อง

เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,363.28 จุด พุ่งขึ้น 588.87 จุด หรือ +1.80% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,830.63 จุด เพิ่มขึ้น 336.70 จุด หรือ +2.69% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,208.49 จุด เพิ่มขึ้น 86.02 จุด หรือ +2.09%


นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นคึกคัก หลังเงินเฟ้อชะลองลงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งจะลดแรงกดดันต่อเฟดในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้นเพียง 8.5% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.7% ลดลงต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้น 9.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทรงตัวในเดือนก.ค. หรือเพิ่มขึ้น 0.0% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2%


ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1% เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.5%


ตลาดลดคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยคาดว่าจะปรับขึ้น 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ย. และเพิ่มคาดการณ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนี CPI ที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 61.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 2.75-3.00% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 38.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%


สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุด WTI ใกล้หลุดระดับ 88 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ใกล้หลุด 94 ดอลลาร์ หลังยูเครนกลับมาเปิดท่อส่งน้ำมันไปยังยุโรปตะวันออก