ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 150 จุด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรชะลอลง



.อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ชะลอลง หลังนักลงทุนแห่ซื้อลดความเสี่ยง

.นักลงทุนติดตามผลประกอบการไตรมาส 3 เป๊ปซี่โค แจ้งผลประกอบการดีกว่าคาด

.ตลาดรอดูทความคืบหน้าสงครามในอิสราเอล-ทิศทางเศรษฐกิจดอกเบี้ย

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,755.94 จุด เพิ่มขึ้น 151.29 จุด หรือ 0.45% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,366.72 จุด เพิ่มขึ้น 31.06 จุด หรือ 0.72% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 13,605.75 จุด เพิ่มขึ้น 121.51 จุด หรือ 0.90%


ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นที่ีราคาลดลงในท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส นักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลดลง


อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.705% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.881%


ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้ปัจจัยบวกจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน โดยล่าสุด สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดใกล้หลุดระดับ 85 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังพุ่งกว่า 4% วานนี้ขานรับข่าวการทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)


นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์


ราคาหุ้นของบริษัทเป๊ปซี่โค ดีดตัวขึ้น หลังเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยเป๊ปซี่โคเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 3/2566 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทมีกำไรที่ระดับ 2.25 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.15 ดอลลาร์/หุ้น


นอกจากนี้ ตลาดจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ในวันพุธ รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพฤหัสบดี