

- นักลงทุนขายหุ้นทำกำไร ลดความเสี่ยงหลังการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด
- นักวิเคราะห์คาด ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่ออีก 2 ครั้ง
- ตลาดจับตาการประกาศผลประกอบการบริษัทไตรมาส 4 ที่ทยอยออกมา และส่วนใหญ่ดีกว่าคาด
เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,158.48 จุดลดลง
87.45 จุด หรือ -0.26% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,884.79 จุด ลดลง 7.00 จุด หรือ -0.06% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,129.52จุด ลดลง 7.77 จุด หรือ -0.19%
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวผันผวนผิดหวังตัวเลขเงินเฟ้อส่งผลให้มีแรงขายต่อเนื่อง นักลงทุนกังวลตัวเลขเงินเฟ้อที่เปิดเผยวันนี้สูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยช่วงแรกลดลงแรงกว่า 200 จุดก่อนกระเตื้องขึ้นมา
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคประจำเดือนม.ค.ในวันนี้ โดย ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.2% เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.6% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.5% เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกอย่างน้อย 2 ครั้ง หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดในวันนี้ โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.และเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย.หรือก.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ย.