

- นักลงทุนจับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้
- ตลาดรอดูทิศทางดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 27-28 เม.ย.นี้
- ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน วัดกำลังแรงเทขายหรือซื้อหุ้นทำกำไรชี้นำตลาด
เมื่อเวลา 21,45 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,956.53 จุด ลดลง 25.04 จุด -0.07%
ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,084.51 จุด ลดลง 54.27 จุด หรือ -0.38% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,181.15 จุด ลดลง 6.47 จุด -0.15%
นักลงทุนจับตาบริษัทจดทะเบียนจำนวนมาก ซึ่งจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยี ได้แก่ บริษัทแอปเปิล, ไมโครซอฟท์, แอมะซอน และอัลฟาเบท ทั้งนี้ บริษัทที่ประกาศผลประกอบการแล้วจำนวน 84% ที่รายงานตัวเลขกำไรเป็นบวก ขณะที่ 77% รายงานรายได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
ราคาหุ้นบริษัทยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส (UPS) ซึ่งเป็นบริษัทรับส่งพัสดุภัณฑ์ใหญ่ที่สุดในโลก พุ่งขึ้นเกือบ 10% หลังรายงานกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 1 โดยบริษัทมีกำไร 2.77 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.72 ดอลลาร์/หุ้น มีรายได้ที่ระดับ 2.29 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.05 หมื่นล้านดอลลาร์
ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน โดยมีแรงซื้อหุ้นส่วนหนึ่งเพื่อเก็งกำไรผลประกอบการ ขณะที่มีแรงขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้กำไร หลังภาวะเศรษฐกิจส่อแววฟื้นตัวต่อเนื่อง
ตลาดยังคงจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 27-28 เม.ย.นี้ เพื่อติดตามทฺิศทางดอกเบี้ย และภาพรวมเศรษฐกิจ รวมทั้งติดตาม การเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 6.1% ในไตรมาส 1 ซึ่งจะเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546 หลังจากที่เติบโต 4.3% ในไตรมาส 4/2563 ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวมากกว่า 7.0% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2527 หลังจากหดตัว 3.5% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 74 ปี
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศวันนี้ ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 12% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2549 หลังจากเพิ่มขึ้น 11.2% ในเดือนม.ค.
ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐพุ่งนิวไฮ 14 เดือน โดยผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 121.7 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดของโควิด-19 ในเดือนก.พ.2563 จากระดับ 109.0 ในเดือนมี.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 113.0