ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบกว่า95จุดไม่มั่นใจเจรจา การค้าจีน-สหรัฐฯ

  • รายงานระบุ จีนสวนสหรัฐฯไม่ต้องการทำข้อตกลงการค้าในวงกว้าง
  • การเจรจาระดับเจ้าหน้าที่ตึงเครียด ไม่เห็นสัญญาณเชิงบวก
  • ลุ้นเฟดลดดอกเบี้ยต่อประชุมสิ้นเดือนนี้พยุงเศรษฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 7 ต.ค.ที่ 26,478.02 จุด ลดลง 95.70 จุด หรือ -0.36% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,938.79 จุด ลดลง 13.22 จุด หรือ -0.45% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท ปิดที่ 7,956.29 จุด ลดลง 26.18 จุด หรือ -0.33%

นักลงทุนไม่มั่นใจว่า การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯว่าจะประสบความสำเร็จในการยุติสงครามการค้า หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนไม่ต้องการทำข้อตกลงการค้าในวงกว้าง โดยเฉพาะประเด็นการปฏิรูปนโยบายอุตสาหกรรม หรือการให้เงินอุดหนุนของภาครัฐ

รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่เจรจาการค้าของจีนราว 30 คน นำโดยนายเหลียว หมิง รมช.คลังของจีน ได้เดินทางมายังสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เมื่อวานนี้ เพื่อทำการเจรจาการค้าเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเจรจากันเกี่ยวกับการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี, การขโมยสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา, การตั้งกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี รวมทั้งประเด็นในด้านการเกษตรและภาคบริการ และการบังคับใช้มาตรการต่างๆตามข้อตกลง

อย่างไรก็ดี การเจรจาของเจ้าหน้าที่การค้าจากทั้งสองฝ่ายเมื่อวานนี้เป็นไปอย่างตึงเครียด โดยไม่มีฝ่ายใดส่งสัญญาณการประนีประนอม

ขณะต้องจับตาการเจรจาระดับรัฐมนตรีระหว่างสหรัฐและจีนนั้น จะมีขึ้นในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 2.1% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.4% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ร่วงลง 2.2% และหุ้นอาปาเช คอร์ป ดิ่งลง 3.4%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นบริษัทที่ให้บริการด้านการสื่อสารปรับตัวลง ส่วนหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ นำโดยหุ้น Pinduoduo ร่วงลง 5.04% และหุ้นไป่ตู้ ร่วงลง 2.87%

หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ปิดลบ 0.5% หลังจากสหภาพแรงงานรถยนต์สหรัฐ (UAW) ได้ปฏิเสธข้อเสนอล่าสุดของจีเอ็ม เกี่ยวกับสัญญาแรงงานระยะเวลา 4 ปี

นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาสราว 74.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้