

- นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ถูกเทขายมากในช่วงก่อนหน้า
- คลายวิตกอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเริ่มลงจากดีดขึ้นสูงสุดรอบ 14 เดือน
- เฟด นิวยอร์ก รายงานดัชนีชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเดือนก.พ.ลด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 22 มี.ค.ที่ 32,731.20 จุด เพิ่มขึ้น 103.23 จุด หรือ +0.32% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,940.59 จุด เพิ่มขึ้น 27.49 จุด หรือ +0.70% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 13,377.54 จุด เพิ่มขึ้น 162.31 จุด หรือ +1.23%
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.93% โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงลงสู่ระดับ 1.679% จากระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.83% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.45% หุ้นแอมะซอนดอทคอม เพิ่มขึ้น 1.17% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 1.18% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 2.13% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 2.65%
หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 2.31% ปิดที่ระดับ 670 ดอลลาร์ หลังจากบริษัท Ark Investment Management ซึ่งบริหารโดยนางเคธี วูด คาดการณ์ว่า ราคาหุ้นของเทสลาจะพุ่งแตะ 3,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568 และคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ Ark Investment ยังคาดการณ์ว่า เทสลาจะผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติได้อย่างเต็มรูปแบบภายในอีก 5 ปี
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้น หลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์สรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ มีแผนที่จะผลักดันการใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างรายใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.32% หุ้นอีตัน คอร์ป พุ่งขึ้น 1.21% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 0.97% หุ้น 3M ปรับตัวขึ้น 0.37%
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า พุ่งขึ้น 4.04% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลการทดสอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อวานนี้ ซึ่งพบว่า วัคซีนที่แอสตร้าเซนเนก้าพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพ 79-100%
แต่หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 2.26% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 2.69% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ลดลง 1.23% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 1.67% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลบ 1.54%
ทั้งนี้ ตัวเลขดัชนีชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจออกมาสวนืางกับนักวิเคราห์คาด โดนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ -1.09 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2563 ตรงกันข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +0.68 จากระดับ +0.75 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีเดือนก.พ.ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของภาคการผลิต, ยอดขายบ้าน และการบริโภค
สอดคล้องกับสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลงมากกว่าที่คาดไว้ โดยดิ่งลง 6.6% สู่ระดับ 6.22 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งสูง, สต็อกบ้านในระดับต่ำ, ราคาวัสดุสร้างบ้านที่พุ่งขึ้น รวมทั้งการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง