ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดเพิ่ม 369 จุด ข่าวความคืบหน้า ยาต้านโควิด-19 หนุนตลาด

  • พบยา remdesivir ลดอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ถึง 62%
  • ตลาดคลายกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งแรงต่อเนื่อง
  • นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 10ก.ค.ที่ 26,075.3 จุด เพิ่มขึ้น 369.21 จุด หรือ +1.44%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,185.04 จุด เพิ่มขึ้น 32.99 จุด หรือ +1.05% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิสปิดที่ 10,617.44 จุด เพิ่มขึ้น 69.69 จุด หรือ +0.66%

นักวิเคราะห์ ระบุว่า ข่าวความคืบหน้าของบริษัท Gilead Sciences Inc ในการผลิตยารักษาโรคโควิด-19 ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐ

โดยผลการทดลองพบว่า ยา remdesivir ของ Gilead สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ได้ถึง 62% เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีมาตรฐาน ส่งผลให้หุ้น Gilead พุ่งขึ้น 2.2%

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลและระมัดระวังในการซื้อขายหุ้น หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นวันเดียวสูงสุดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันพฤหัสบดี และเพิ่มกว่า 63,000 รายในสหรัฐ โดยหลายรัฐในสหรัฐได้ชะลอแผนการเปิดเศรษฐกิจออกไปก่อน

นักลงทุนได้เข้าซื้อหุ้นที่ยังปรับตัวล้าหลัง เพื่อเก็งกำไรผลประกอบการที่จะออกมา โดยหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นก่อนการเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2/2563

หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป พุ่งขึ้น 5.5%, หุ้นซิตี้กรุ๊ป ทะยานขึ้น 6.5% และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 5.5%

อย่างไรก็ตาม Refinitiv บ่งชี้ว่า ผลกำไรรวมของบริษัทในดัชนี S&P 500 จะลดลงมากกว่า 40% ในไตรมาส 2 ซึ่งจะเป็นการลดลงรายไตรมาสครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน

หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 10.8% หลังคาร์นิวัลเปิดเผยว่า บริษัทกำลังวางแผนที่จะเปิดธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป และจะใช้กองเรือสำราญที่มีขนาดเล็กลงเมื่อกลับมาให้บริการ

หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่ง 8.1% หลังโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์

ขณะเดียวกันตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังมีทิศทางทั้งดีขึ้นและแย่ลง แสดงถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจ โดยล่าสุดกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลง 0.2% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI ปรับตัวลง 0.8% ในเดือนมิ.ย. หลังจากร่วงลง 0.8% เช่นกันในเดือนพ.ค.