ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงกว่า 200 จุดกังวลการสู้รบอิสราเอล-ผลประกอบการมอร์แกนสแตนลีย์

  • นักลงทุนเทขายหุุ้น ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยกังวลสถานการณ์สู้รบอิสราเอล
  • ราคาหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ดิ่งลง กดดันบรรยากาศการซื้อขายในตลาด
  • นักลงทุนรอฟังปาฐกถาของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หาทิศทางดอกเบี้ย

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 33,793.28 จุด ลดลง 204.37 จุด หรือ -0.60% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,335.46 จุด ลดลง 37.74 จุด หรือ -0.86% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่13,391.24 ลดลง 142.50 จุด หรือ- 1.05%

นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจอร์แดนประกาศยกเลิกการประชุมสุดยอด 4 ฝ่าย ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ หลังเกิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลในฉนวนกาซาวานนี้ ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสได้กล่าวโทษว่า เหตุระเบิดโรงพยาบาลอัล-อาห์ลี อัล-อาราบี ในฉนวนกาซาเมื่อคืนนี้เป็นฝีมือของอิสราเอล ขณะที่อิสราเอลระบุว่า ต้นเหตุคือกลุ่มติดอาวุธญิฮาดปาเลสไตน์ยิงจรวดพลาดเป้า

นักลงทุนบางส่วนขายหุ้นในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงเข้าซื้อสินทรัพย์ที่เสี่ยงน้อยกว่า ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นใกล้ทะลุระดับ 1,970 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเข้าสู่วันที่ 12

ราคาหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ดิ่งลงอย่างหนักในการซื้อขายนักลงทุนผิดหวังต่อรายได้ของธุรกิจวาณิชธนกิจและธุรกิจบริหารความมั่งคั่งที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แม้มอร์แกน สแตนลีย์ จะเปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 3/2566

ขณะเดียวกัน นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ทดแทนนายเจมส์ กอร์แมนหลังจากที่นายกอร์แมนประกาศในเดือนพ.ค.เกี่ยวกับแผนการลาออกจากตำแหน่งภายในเวลา 1 ปี

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี เป็นแรงหนุนตล่กโดยขณะนี้ บริษัทราว 10% ในดัชนี S&P 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 3 แล้ว ซึ่งบริษัทราว 78% มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อหาทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) ในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ การกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าว ถือเป็นการแสดงความเห็นของนายพาวเวลเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันเสาร์นี้ ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.66