

.เจ้าหน้าเฟด ดาหน้าหนุนเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อสกัดเงินเฟ้ออยู่หมัด
.นักลงทุนเริ่มไม่ตกใจภาวะดอกเบี้ยสูง ส่งผลให้มีแรงเข้าซื้อสะสม
.ถ้อยแถลง “พาวเวล” ไม่ชี้ชัดทิศทางดอกเบี้ย ย้ำเฟดเป็นอิสระจากการเมือง
เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,614.49
จุด เพิ่มขึ้น 96.84 จุดหรือ +0.29% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,691.10 จุด เพิ่มขึ้น 55.45 จุดหรือ+0.52% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,906.75 จุด เพิ่มขึ้น 14.66 จุด หรือ+0.38%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน ท่ามกลางความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)เร่งขึ้นดอกเบี้ย หลังเจ้าหน้าเฟดดาหน้าหนุนการเดินหน้าสกัดเงินเฟ้อ
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูง และเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงระดับ 5.0-5.25% เพื่อขจัดอุปสงค์ส่วนเกินออกจากเศรษฐกิจ
นายบอสติกระบุว่า เฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ยเหนือระดับ 5.0% และคงดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวเป็นระยะเวลานานเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ด้านนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก ระบุเช่นกันว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าระดับ 5.0% โดยแตะระดับสูงสุดที่ 5.0-5.25% และคงดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไประยะหนึ่ง เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
นางดาลียังกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% หรือ 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.
“สิ่งที่ดิฉันสามารถพูดได้ในขณะนี้ก็คือ เฟดควรพยายามฉุดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป และในขณะเดียวกัน เฟดก็ต้องทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่าเงินเฟ้อจะไม่ฝังรากลึกอยู่ในระบบเศรษฐกิจเป็นเวลานาน” นางดาลีกล่าวให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงวันนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยเน้นย้ำในวันนี้ถึงความจำเป็นที่ธนาคารกลางจะต้องมีความเป็นอิสระจากอิทธิพลทางการเมือง ขณะที่จัดการต่ออัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง
นายพาวเวลกล่าวว่า การใช้มาตรการสร้างเสถียรภาพต่อราคาจำเป็นต้องใช้การตัดสินใจที่ยากลำบาก ซึ่งอาจไม่เป็นที่พอใจต่อนักการเมือง
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนธ.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าตัวเลข CPI ดังกล่าวจะบ่งชี้ภาวะชะลอตัวของเงินเฟ้อสหรัฐ
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.6% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 7.1% ในเดือนพ.ย.