ดัชนีดาวโจนส์ติดลบกว่า 60 จุด ติดตามสถานการณ์สงครามในอิสราเอล



.นักลงทุนเทขายหุ้นลดความเสี่ยง ติดตามสถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลาง

.หุ้นบริษัทผลิตอาวุธและบริษัทน้ำมันซึ่งได้ประโยชน์จากสถานการณ์ปรับตัวขึ้น

.ตลาดกังวลราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจะกระทบเศรษฐกิจ -ทิศทางดอกเบี้ย

เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ  33,346.65 จุด ลดลง
 60.93 จุด หรือลดลง 0.18%  ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,293.43 จุด ลดลง 15.07จุด หรือ  0.35%  ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 13,317.66 จุด ลดลง 113.68 จุด หรือลดลง0.85% 

นักลงทุนเทขายหุ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เห็นได้จากดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้น ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

โดยกลุ่มฮามาสทำการโจมตีอิสราเอลอย่างรุนแรงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวอิสราเอลถูกสังหารกว่า 700 ราย ขณะที่ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 500 รายจากการตอบโต้ของอิสราเอล ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,200 รายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติอีกหลายราย

ราคาหุ้นของบริษัทสายการบินสหรัฐต่างปรับตัวลง หลังการประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปยังอิสราเอล ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทผลิตอาวุธและบริษัทน้ำมันพุ่งขึ้นสวนทางตลาด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 4% ทะลุระดับ 86 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะกระตุ้นเงินเฟ้อ และจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

อย่างไรก็ตาม วันนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการของสหรัฐ เนื่องในวันโคลัมบัส ซึ่งหน่วยงานของรัฐบาลจะปิดทำการ รวมทั้งโรงเรียนและธนาคารต่างๆ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงเปิดทำการ ขณะที่ตลาดพันธบัตรปิดทำการ

ตลาดจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ในวันพุธ รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพฤหัสบดี