ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวต่อกว่า 140 จุด คาดดอกเบี้ยลดไตรมาสแรกปีหน้า

นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวชึ้นต่อเนื่อง

  • ตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่เฟดประกาศคงดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13 ธ.ค.
  • นักลงทุนซื้อหุ้นสะสม รอปรากฎการณ์ซานต้า แรลลี่ในช่วงปลายปีต่อต้นปีหน้า
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไปที่จะประกาศศุกร์นี้ชะลอต่อเนื่อง

เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 37,454.07 จุด เพิ่มขึ้น 148.05 จุด หรือ 0.40%  ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,756.59 จุด เพิ่มขึ้น  16.03 จุด หรือ 0.34%  ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 14,962.47 จุด เพิ่มขึ้น 57.28 จุด หรือ 0.38% 

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.2567 และเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 6 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.50% มากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75%

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.0% ในเดือนต.ค. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.5% ในเดือนต.ค.

นักลงทุนจับตาปรากฎการณ์ “ซานต้า แรลลี่” ที่มักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่ ซึ่งราคคาหุ้นจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว