ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 450 จุด กังวลทรัมป์ ทำสงครามการค้ารอบใหม่กับจีน

  • “ทรัมป์” ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน กรณีการแพร่ระบาดโควิด-19
  • ตลาดกังวลผลประกอบการบริษัทขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจซัตดาวน์
  • นักลงทุนไม่มั่นใจเทขายหุ้นหันไปลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย

เมื่อเวลา 21.30 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 23,889.35 จุด ดิ่งลง 456.37 จุดหรือ -1.87%
ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 8,711.54 จุด ลดลง 178.01 จุด หรือ -2.00% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 2,852.89 จุด ลดลง 59.54 จุด หรือ -2.04%

นักลงทุนไม่ตื่นเต้นกับผลประกอบการของแอปเปิ้ล ที่ดีขึ้นในไตรมาสแรก โดยแอปเปิล อิงค์ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2563 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ระดับ 1.125 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 2.55 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนยอดขายอยู่ที่ 5.83 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 5.45 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขาย IPhone ลดลง 7% สู่ระดับ 2.896 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้รับผลกระทบจากดีมานด์ของผู้บริโภคที่ลดลงท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก

ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง แอมะซอน รวมทั้ง แอปเปิ้ล ได้ออกมาตือนถึงอนาคตที่ไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่จะส่งผลต่อผลประกอบการในไตรมาสต่อๆไป

ขณะที่เอ็กซอน โมบิล คอร์ป บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2563 โดยบริษัทประสบกับภาวะขาดทุน และรายได้ร่วงลง 12% เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความต้องการใช้น้ำมัน ทำให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด และกดดันราคาน้ำมันให้ร่วงลงอย่างหนัก ด้านเชฟรอน คอร์ป บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2563 โดยกำไรปรับตัวขึ้น แต่รายได้ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

นักลงทุนยังกังวลว่าความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอาจกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เพื่อตอบโต้จีนจากกรณีการรับมือกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย