“ณุศาเทค กรุ๊ป” ทุ่มพันล้าน เปิดตัว “Nusa Digital Asset” วางแผนเข้าถึงนักลงทุนทั่วโลก หวังสร้างเม็ดเงินเข้าไทยหมื่นล้านบาท



  • พร้อมเปิดตัวโครงการ Thailand Digital Kingdom
  • อาณาจักรเศรษฐกิจใหม่บนโลกดิจิทัล กับกลยุทธ์ 3+6+1
  • ตั้งเป้า Thailand showroom สร้างรายได้ 0.1% ของมูลค่าการส่งออกที่ 7,500 ล้านบาท

นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ได้เปิดตัว Nusa Tech (ณุศา เทค) กลุ่มธุรกิจใหม่ภายใต้การนำของณุศาศิริฯ โดยล่าสุดได้จัดงาน NUSA OPEN THE NEW WORLD ในรูปแบบ Virtual Conference เพื่อเปิดตัวกลุ่มธุรกิจและโครงการใหม่แห่งอนาคตที่จะมาเสริมกำลังทางธุรกิจพร้อมเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่จะเชื่อมต่อสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ให้กับผู้ประกอบการในประเทศไทย เพื่อยกระดับธุรกิจในอุตสาหกรรมหลักของไทยสู่ตลาดโลกแบบไร้พรมแดน ด้วยการเปิดตัวโครงการ Thailand Digital Kingdom อาณาจักรเศรษฐกิจใหม่บนโลกดิจิทัล ด้วยกลยุทธ์ 3+6+1

ทั้งนี้นำร่องด้วยแพลตฟอร์มยักษ์ 3 ด้าน เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว การแพทย์ และการค้าออนไลน์และ 6 แพลตฟอร์มที่จะมาเป็นระบบรองรับในรูปแบบ Supply Chain และ อีก 1 การซื้อขายรูปแบบใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ ในยุคดิจิทัลกับ Nusa Digital Asset เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ทั่วโลกได้โดยไม่มีข้อจำกัด

ประกอบด้วย 1.แพลตฟอร์มด้านการค้าออนไลน์ Thailand Showroom จะเชื่อมต่อและผลักดันให้สินค้าไทยออกสู่ตลาดโลก พร้อมสร้างรายได้และโอกาสให้กับอุตสาหกรรมไทยในทุกระดับด้วยระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นเสมือนโชว์รูม ของสินค้าไทยที่ยิ่งใหญ่จากทั่วทุกภูมิภาคของไทย จะมารวมไว้เป็นหนึ่งเดียว

2.แพลตฟอร์ม P.A.L.P by WMA (world medical alliance) โดดเด่นด้านการแพทย์และสุขภาพ ที่จะยกระดับวงการการแพทย์ไทยสู่สากล เพื่อเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพของเอเชีย ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการกรองข้อมูลและวิเคราะห์ผลอย่างแม่นยำ พร้อมเชื่อมต่อการบริการทางการแพทย์และสุขภาพแบบไร้ขีดจำกัด สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการทั่วโลก โดยร่วมมือกับ Thailand Elite card โดยมีเป้าหมายจะดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ใส่ใจด้านสุขภาพ

3.แพลตฟอร์ม Safe-T Travel ที่ร่วมมือกับ Depa ที่จะมาสร้างมาตรฐานใหม่และเป็นเครื่องมือหลักของการท่องเที่ยวในประเทศที่จะรวบรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยแบบครบวงจร ที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อออกแบบการท่องเที่ยวส่วนบุคคล และด้วยระบบการให้บริการจากกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อ เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เป็นเสมือนประตูสู่ประเทศไทย

นอกจากนี้ณุศา เทค ยังพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะเพิ่มอีก 6 ด้าน ที่จะมาเติมเต็มให้ครบวงจรในรูปแบบ Ecosystem และจะมาเป็นอาวุธเสริมในการผนึกกำลังเพื่อพัฒนาและผลักดันระบบ Supply Chain ให้พร้อมรองรับธุรกิจของไทยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยประกอบไปด้วย

1.แพลตฟอร์ม Smart factories and warehouses แพลตฟอร์มพัฒนาระบบการจัดเก็บสินค้าระดับอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี

2.แพลตฟอร์ม Smart food agriculture ที่จะมาผลักดันการเกษตรอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

3.แพลตฟอร์ม Delivery เพื่อมาใช้ในการพัฒนาการขนส่งที่ครอบคลุมทุกพื้นที่

4.แพลตฟอร์ม Export and Shipping ที่จะใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาการส่งออกให้สะดวกและรวดเร็ว

5.แพลตฟอร์ม Nusa Money แพลตฟอร์มที่จะมาเป็นรากฐานและเป็นต้นทุนทางการเงินและความคิดที่จะมาเชื่อมโยงทุกแพลตฟอร์มด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลใบเดียว

6.แพลตฟอร์ม HR new gen strategy platform อาวุธทางปัญญาที่จะมาขับเคลื่อนทุกธุรกิจด้วยการจัดหาขุนพลรุ่นใหม่เพื่อจับคู่สายงานกับความถนัดแบบเป็นระบบ

นางศิริญา กล่าวว่า ณุศา เทค ยังได้ร่วมกับภาครัฐและเอกชน พร้อมด้วยนักพัฒนาและผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วนเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยแพลตฟอร์มมาตราฐานระดับสากลในโครงการ Thailand Digital Kingdom ที่จะมาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหลัก ด้วยการนำเทคโนโลยี AI ที่เป็นนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ที่ทรงประสิทธิภาพ เข้าถึงตลาดโลกและวิเคราะห์เพื่อประมวลผลอย่างแม่นยำ โดย 3 แพลตฟอร์มหลักจะพร้อมใช้ในปี 2564 เพื่อรองรับความต้องการของนักธุรกิจและคู่ค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

ส่วนอีก 6 แพลตฟอร์มจะพร้อมใช้ในปี 2564-2565  เพื่อพัฒนาระบบ Ecosystem อย่างเต็มรูปแบบเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าของไทยอย่างยั่งยืน

นอกจากระบบที่จะมาเป็นแรงผลักดันทางธุรกิจ สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการมากมาย ทางโครงการยังเปิดตัวNusa Digital Asset ที่เป็นการเปลี่ยนผ่านการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์รูปแบบเดิมที่มีความยุ่งยากซับซ้อนมาสู่รูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ทำให้การซื้อขายสะดวกสบายขึ้น ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น โปร่งใส ปลอดภัยและสามารถเข้าถึงผู้ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ทั่วโลก 

“สำหรับณุศา เทค ได้วางเป้าหมายไว้ว่า ธุรกิจแพลตฟอร์มทั้งหมดจะสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศไทยถึง 10,000 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อปี โดยตั้งเป้า Thailand showroom จะสร้างรายได้ 0.1% ของมูลค่าการส่งออกประมาณ 7,500 ล้านบาท แพลตฟอร์ม PALP อีก 2,500 ล้านบาท แพลตฟอร์ม Save-T Travel จะสร้างเม็ดเงินให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยประมาณ 300 ล้านบาท และอีก 6 แพลตฟอร์มด้าน Supply Chain อีก 1​,500 ล้านบาท”

นางศิริญา กล่าวด้วยว่า แต่เมื่อทุกแพลตฟอร์มเชื่อมต่อกันทั้งหมดจะสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทยทั้งประเทศถึง 10% ของมูลค่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และจะช่วยสร้างรายได้สู่ชุมชน เนื่องจากทุกแพลตฟอร์มจะเชื่อมต่อกันเป็นระบบจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ คาดว่าโครงการ Thailand Digital Kingdom จะเป็นแพลตฟอร์มระดับชาติที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต