- ให้กับ 25 ประเทศในเอเชียแปซิฟิกรวมไทย
- ซื้ออุปกรณ์เก็บความเย็นขนส่งวัคซีนต้านโควิด
- ทุ่มอีก 19 ล้านช่วยโรฮิงญาในเมียนมา-บังคลาเทศ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นประกาศในวันนี้ (9มี.ค.) ว่า ญี่ปุ่นเตรียมมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้แก่ 25 ประเทศในเอเชียและแปซิฟิก ผ่านองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อช่วยสร้างเครือข่ายการขนส่งสำหรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
สำหรับเงินช่วยเหลือดังกล่าว จะนำไปซื้ออุปกรณ์กักเก็บความเย็น พาหนะขนส่ง และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อให้การจัดส่งวัคซีนในประเทศต่างๆ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ญี่ปุ่นตั้งเป้าหมายที่จะช่วยรับรองว่า มีการแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิดแก่ประชากรทุกคนในประเทศกำลังพัฒนา และหวังว่า จะสามารถสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และจะส่งมอบความช่วยเหลือผ่านองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF)
ส่วนประเทศอื่นที่ได้รับเงินทุนช่วยเหลือ ประกอบด้วย ภูฏาน บรูไน กัมพูชา หมู่เกาะคุก ติมอร์ตะวันออก ฟิจิ ลาว มาเลเซีย มัลดีฟส์ ไมโครนีเซีย พม่า เนปาล นีอูเอ ปากีสถาน ปาปัวนิวกินี ซามัว ศรีลังกา หมู่เกาะโซโลมอน ตองกา ตูวาลู วานูอาตู และเวียดนาม
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นได้ให้คำมั่นที่จะมอบเงิน 200 ล้านเหรียญฯแก่โครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นโครงการจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 ระดับนานาชาติ เพื่อรับประกันว่า ประเทศกำลังพัฒนาจะเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียมกัน
ขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่น ยังเตรียมมอบเงินช่วยเหลือเป็นกรณีเร่งด่วนอีก 19 ล้านเหรียญฯผ่านองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือชาวโรฮิงญาในเมียนมา ที่ต้องหลบหนีจากภูมิลำเนาเดิมในรัฐยะไข่ เพื่อให้รอดพ้นจากการถูกควบคุมตัว และถูกทำร้ายโดยเจ้าหน้าที่ทหารของเมียนมา แม้จะมีการประณามการก่อเหตุรัฐประหารของกองทัพเมียนมาเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา
สำหรับเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ จะนำไปใช้เพื่อจัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์สุขอนามัยให้กับโรงพยาบาลและสถานบริการด้านสุขภาพ 58 แห่งในเมียนมา และบังคลาเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาอยู่เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงจัดหาอาหารให้กับประชาชนราว 600,000 คนในทั้ง 2 ประเทศ โดยจะมอบความช่วยเหลือผ่านคณะกรรมการกาชาดสากล (ICRC), โครงการอาหารโลก (WFP) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM)
