ชาวญี่ปุ่นพากันไปเข้าคูหาเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 31 ตุลาคม 2564 เพื่อตัดสินว่าจะยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาลภายใต้การนำของนายฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อต้นเดือนตุลาคมนี้ต่อไปหรือไม่ หรือจะเป็นการเลือกตั้งที่นำไปสู่ความไม่แน่นอนทางการเมืองในญี่ปุ่น
คิชิดะประกาศจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปหลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 4 ตุลาคม ท่ามกลางคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อพรรคเสรีประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลมาหลายสมัยว่าล้มเหลวในการรับมือกับการจัดการปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19
ปัจจุบันคิชิดะเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ความยุ่งยากในการขับเคลื่อนนโยบายช่วยเหลือคนยากจน การเพิ่มงบประมาณด้านการทหารครั้งใหญ่ ไปจนถึงการใช้นโยบายแข็งกร้าวในการรับมือกับจีน
เมื่อรวมกับภาพลักษณ์ของเจ้าตัวที่ไม่ดึงดูดผู้มีสิทธิออกเสียง และคะแนนนิยมต่อตัวคิชิดะตั้งแต่เพิ่งก้าวมารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ตกต่ำ ผลโพลที่ออกมาชี้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อาจทำให้พรรคเอ็นแอลดีเสี่ยงที่จะสูญเสียเสียงข้างมากแบบเด็ดขาดในสภาล่างเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2552
จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิก็มีนัยสำคัญต่อการเลือกตั้งดังกล่าว เนื่องจากจำนวนผู้ที่ออกมาใช้สิทธิสูงน่าจะเป็นคุณกับพรรคฝ่ายค้าน แต่เชื่อว่าหลายคนก็อาจไปใช้สิทธิแต่ไม่ออกเสียงด้วยเช่นกัน ขณที่พรรครัฐธรรมนูญประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดคาดว่าจะได้ที่นั่งเพิ่มขึ้น แต่ไม่อาจโค่นพรรคร่วมรัฐบาลได้
