ซีอีโอ Netflix พูดถึงสงครามสตริมมิ่ง ว่าจะช่วยให้ทั้งอุตสาหกรรมดีขึ้น ช่วยแย่งคนดูทีวีมาดูออนไลน์ พร้อมเป้าหมายอยากยิ่งใหญ่เท่ากับ Youtube

Netflix Q2
Netflix Q2

  • ผลประกอบการ Q2 ปีนี้ Netflix มีสมาชิกทั่วโลก 151.56 ล้านราย
  • เพิ่มขึ้น 2.7 ล้านรายแต่พลาดเป้าที่ 5 ล้านราย
  • สมาชิกในสหรัฐฯ ลดลงครั้งแรก 130,000 ราย
  • ไม่กลัวยักษ์ใหญ่ดาหน้าเปิดสงคราม มองว่าไม่มีใครแพ้
  • มั่นใจเดินหน้าธุรกิจและคอนเทนท์ Original
  • อยากใหญ่เท่ากับ Youtube ที่มีขนาดใหญ่กว่า Netflix 7 เท่า

Netflix ประกาศผลประกอบการไตรมาส่ 2 พบว่าในปีนี้ พบว่า ยอดสมาชิกที่จ่ายเงินดูวีดิโอดสตริมมิ่งทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 151.56 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าราว 2.7 ล้านราย ขณะที่เป้าหมายวางไว้ที่เพิ่มสมาชิกใหม่ไว้ที่ 5 ล้านราย ห่างจากเป้าประมาณ​ 2.3 ล้านราย โดยในตลาดสหรัฐสมาชิกกลับลดลง 130,000 ราย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สมาชิกของ Netflix ลดลง

ทำให้บรรดาสื่อในสหรัฐฯ มองว่าถึงช่วงขาลงจากธุรกิจ และกำลังรอคอยการแข่งขันในธุรกิจสตริมมิ่งอย่างจริงจังในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้ หลังจากที่ Netflix ประสบผลความสำเร็จอย่างสูงกับการเปิดตลาดสตริมมิ่งวิดีโอที่ไม่เคยมีใครมองมาก่อน

โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่หลายค่ายได้เซ็นสัญญาให้ Netflix เอาคอนเทนท์มาสตริม และขณะนี้หลายๆ สัญญาใกล้หมดลงแล้ว พร้อมๆ กับยักษ์ใหญ่หลายๆ ค่ายที่ประกาศพร้อมจะให้บริการภายในสิ้นปีนี้กัน

จนเป็นที่เป็นห่วงบรรดาผู้ถือหุ้น Netflix กันว่าจะได้รับผลกระทบกับสงครามสตริมมิ่งที่จะเกิดขึ้นกันเพราะยักษ์ใหญ่ทั้งนั้นที่ดาหน้ากันเข้ามาเช่น Disney, WarnerMedia, Apple, and NBC Universal

เรามาดูว่าทางฝ่าย Netflix จะพูดถึงเรื่องนี้กันอย่างไร Reed Hastings ซีอีโอ Netflix กล่าวว่า ทราบเป็นอย่างดีถึงสงครามสตริมมิ่ง แต่มองเป็นภาพรวมเป็นผลบวกต่ออุตสาหกรรมสตริมมิ่ง บรรดาคู่แข่งขันทั้งหมดจะต้องประเมินตัวเองระหว่าง Netflix, Disney, Amazon และ ค่ายอื่นๆ แต่ขณะนี้ Netflix ถึงจุดที่ยอดเยี่ยม

นี่ไม่ใช่เป็นการแข่งขันแบบ zero-sum (ฝ่ายหนึ่งชนะอีกฝ่ายต้องสูญเสีย) ตนคิดว่าทุกคนเข้าใจแล้ว ผู้คนจะสมัครเป็นสมาชิกจากผู้ให้บริการหลายราย เป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมที่ช่วยสร้างอุตสาหกรรมสตริ่มมิ่งให้เติบโตไปด้วยกัน

“สงครามสตรีมมิ่ง” จะได้รับความสนใจมากขึ้น และดึงดูดผู้บริโภคเปลี่ยนจากชมรายการโทรทัศน์เป็นมาชมในรูปแบบสตรีมมิ่งทีวีได้เร็วขึ้น

Reed Hastings กล่าวว่า กว่า 6 ปีที่ผ่านมาที่ Netflix นำรายการที่เป็น Original เข้ามาสตริมมิ่ง เพราะรับทราบว่า ภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือรายการต่างๆ ที่เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทต่างๆ จะมีความยากขึ้น คอนเทนท์ต่างๆ จะได้รับ license ที่แตกต่างกัน การทำธุรกิจ สิ่งสำคัญก็คือการดำเนินการผลักดันในเส้นทางนั้นต่อไป เข้าถึงคอนเทนท์ต่างประเทศ มากขึ้น คอนเทนท์ที่เป็น Original มากขึ้น และพนันได้ว่าเป็นเส้นทางที่ผู้บริโภคชื่นชอบ
กับคำถาม เขาจะมองเห็น Netflix เติบโตในภาพรวมต่างประเทศอย่างไร โดยเฉพาะการเติบโตในสหรัฐฯ​และขยายไปตลาดต่างประเทศ เขามองดูมีคู่แข่งในใจซึ่งไม่ใช่ WarnerMedia, NBC Universal, หรือแม้แต่ Disney เขาบอกว่าไม่ได้มองด้านเวลา และมองว่า Netflix จะย่ิงใหญ่เท่า Youtube ได้ไหม

Reed Hastings กล่าวว่า Youtube ใหญ่กว่า Netflix ถึง 7 เท่าโดยประมาณ เพราะเป็นบริการที่วิเศษเพราะเป็นบริการฟรี และยังมีคำถามจริงจังอีกคือ Netflix สามารถผลิตคอนเทนท์ที่ผู้คนเต็มใจจ่ายเงินรับชมหรือไม่

คอนเทนท์ Original จากประเทศเยอรมัน, เดนมาร์กและสวีเดน มีผู้ชมทั่วโลก 12-15 ล้านคน

“ในช่วงแรกมี Hulu, Amazon, YouTube และ Netflix และเราทุกคนเติบโตในอัตรามหาศาลในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา” Hastings กล่าว “ และเรามีคู่แข่งใหม่เข้ามาจำนวนมากในปีหน้า คิดว่าตำแหน่งของเรายอดเยี่ยม หากนักลงทุนเชื่อในอินเทอร์เน็ตทีวี ซึ่งเราในตลาดนี้มีความแข็งแกร่งมาก” Reed Hastings กล่าวในที่สุด