ชาวเมียนมาใช้กลยุทธ์ใหม่ “ประท้วงขยะ”



  • ชวนประชาชนทิ้งขยะบนถนนประท้วงรัฐบาลทหาร
  • หลังกวาดล้างหนักทำยอดผู้เสียชีวิตพุ่งกว่า 500 ราย
  • ขณะที่สหรัฐฯยุติความร่วมมือด้านการค้าทุกรูปแบบ

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ชาวเมียนมาใช้กลยุทธ์ใหม่ นำขยะมากองเต็มถนน เพื่อหวังต้านรัฐบาลทหารที่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วว่า 500 คน

ผู้ประท้วงชาวเมียนมาเดินหน้าอารยะขัดขืน ขอให้ชาวบ้านเอาขยะมากองไว้ตามสี่แยก พร้อมเขียน โปสเตอร์ “นี่คือการประท้วงขยะต่อต้านรัฐบาลทหาร” , “ทุกคนมาร่วมมือกัน” ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพกองขยะท่วมตามท้องถนนในเมืองย่างกุ้ง  

การประท้วงด้วยวิธีนี้เกิดขึ้นเพื่อท้าทายทางการ หลังจากที่เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางการได้ประกาศผ่านรถกระจายเสียงในหลายชุมชนเมืองย่างกุ้ง ขอให้ประชาชนทิ้งขยะให้เหมาะสม 

ส่วนรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากการประท้วงนั้น สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) รายงานว่า นับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.64 พลเรือนเมียนมาเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 510 คน โดยเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 141 คน 

ขณะที่สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สหรัฐฯยุติความร่วมมือด้านการค้าทุกรูปแบบกับเมียนมา ภายใต้ข้อตกลงปี 2556 หลังกองทัพรัฐประหาร และใช้กำลังกวาดล้างประชาชน 

สำหรับมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้จนกว่าเมียนมาจะกลับมามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งนับเป็นมาตรการล่าสุดภายใต้คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เพื่อกดดันระบอบเผด็จการทหารของเมียนมา 

ด้านนางแคทเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าของสหรัฐฯระบุในแถลงการณ์ว่า การสังหารผู้ชุมนุมที่ประท้วงอย่างสันติ, นักศึกษา, คนงาน, ผู้นำแรงงาน แพทย์และเด็กๆ ได้สร้างความตกใจให้กับประชาคมระหว่างประเทศ 

“การกระทำเหล่านี้เป็นการโจมตีโดยตรงต่อกระบวนการเปลี่ยนผ่านของประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และต่อความพยายามของประชาชนชาวเมียนมา ในการมีอนาคตที่สงบสุขและเจริญรุ่งเรือง”    

ทั้งนี้ ในปี 2556 สหรัฐฯและเมียนมาได้ลงนามข้อตกลงที่สร้างโอกาสในการเจรจาและความร่วมมือในด้านการค้าและการลงทุน โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว เมียนมาเห็นพ้องที่จะร่วมมือกับสหรัฐฯในโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปเศรษฐกิจ และระบบการค้าโลก