

มีรายงานข่าวจากสื่อไต้หวันว่า นักธุรกิจชายไต้หวันรายหนึ่งไม่ระบุชื่อโดนทางการจับในข้อหาละเมิดการกักกันตนเองพร้อมกับถูกปรับไปเป็นเงิน 1 ล้านบาท หลังจากละเมิดถึง 7 ครั้งในเวลา 3 วัน
ข่าวงระบุว่า เขามีถิ่นพำนักที่เมืองไถจง ซึ่งอยู่ทางภาคกลางของไต้หวันได้เดินทางกลับจากประเทศจีนเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา และต้องกักกันตนเองเป็นเวลา 14 วันตามกฏ แต่ชายคนดังกล่าวได้ออกจากบ้านเพื่อไปทำธุระ แม้ว่าเขาจะได้รับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในอาคารที่เขาพำนักอยู่
รายงานระบุด้วยว่า ชายคนดังกล่าวทันที่กลับบ้านในคืนแรกได้บอกเจ้าหน้าที่ว่าเขาต้องออกไปซื้ออาหาร ขณะที่ผู้จัดการอาคารได้เตือนไม่ให้เขาออกไปอีก แต่เขาได้ปฏิเสธและได้ออกมาอีกหลายครั้ง
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางกรมอนามัยของไต้หวันได้สั่งปรับเขาเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านไต้หวันซึ่งเท่ากับ 1 ล้านบาทไทย ในข้อหาละเมิด “พระราชบัญญัติพิเศษเพื่อการป้องกันบรรเทาและฟื้นฟูสำหรับโรคปอดบวมขั้นรุนแรง
นอกจากนี้เขายังถูกส่งไปยังศูนย์กักกัน และจะต้องจ่าย 3,000 บาทต่อวันสำหรับการกักนี้ด้วย
ลู่ เชี่ยว เหยน นายกเทศมนตรี เมืองไถจง ได้วิพากษ์วิจารณ์ผู้กระทำผิดว่าไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของคนในครอบครัว และเพื่อนบ้านของเขา และกล่าวว่า “เป็นอาชญากรรมร้ายแรงจะต้องได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง”