ชง “ทตอ.” ไฟเขียวเปิดไต่สวนเหล็กนำเข้าสวมสิทธิ์ไทย



  • นำเข้ามาแก้ไข ดัดแปลงแล้วส่งออกต่อไปประเทศอื่น
  • หวังหลบเลี่ยงเสียอากรตอบโต้การทุ่มตลาด/อุดหนุน
  • ถ้าไฟเขียวเปิดไต่สวนถือเป็นแคสแรกของประเทศ

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอให้ทตอ.พิจารณาเปิดไต่สวนมาตรการตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (Anti – Circumvention : AC) สินค้าเหล็กจากต่างประเทศ ที่นำเข้ามาในไทย และใช้ไทยเป็นฐานในการส่งออกต่อไปประเทศที่เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) หรืออากรตอบโต้การอุดหนุน (CVD) เพื่อหลบเลี่ยงการชำระอากร โดยหากทตอ. พิจารณาแล้วพบว่า สินค้าเหล็กเหล่านั้น หลบเลี่ยงการชำระอากรจริง ก็จะเปิดไต่สวนทันที และถือเป็นเคสแรกในประเทศไทย นับตั้งแต่ใช้ พ.ร.บ. ตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2562

“มาตรการ AC คือ มาตรการตอบโต้ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ที่นำสินค้าที่ถูกประเทศอื่นใช้มาตรการ AD/CVD โดยการเรียกเก็บอากร ม AD/CVD มาผ่านกระบวนการหรือดำเนินการเพื่อหลบเลี่ยงการชำระอากร เช่น นำเข้าสินค้ามาแก้ไข หรือดัดแปลงเพียงเล็กน้อย โดยใช้ไทยเป็นฐานส่งออก หรือแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าจากไทย เพราะสินค้าที่ออกจากไทยไม่ถูกประเทศปลายทางเก็บอากร หากผู้ประกอบการรายใดพบว่ามีการนำเข้าสินค้าที่เข้าข่ายการหลบเลี่ยงมาตรการAD/CVD สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่กรม”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากทตอ.เห็นชอบให้เปิดการไต่สวน และเมื่อไต่สวนแล้วพบว่า สินค้าเหล็กนำเข้า มีการหลบเลี่ยงการเสียอากรจริง ทตอ.ก็อาจกำหนดให้ขยายการเรียกเก็บอากร AD/CVD กับสินค้านำเข้าที่หลบเลี่ยงมาตรการในอัตราไม่เกินอัตราสูงสุดที่เรียกเก็บกับสินค้าที่ถูกใช้มาตรการจากประเทศผู้ส่งออก ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 65 กรมได้กำหนดให้ผู้ประกอบการสินค้ากลุ่มเสี่ยงสูงที่จะแอบอ้างถิ่นกำเนิดไทย 42 รายการ ต้องยื่นขอตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้า เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ไทย แต่หลังจากนั้น ได้เพิ่มสินค้ากลุ่มเสี่ยงเป็น 48 รายการ เพื่อให้สอดคล้องกับสินค้าที่สหรัฐฯและสหภาพยุโรปเข้มงวดตรวจสอบการหลบเลี่ยงมากขึ้น โดยทั้ง 48 รายการ เช่น เหล็กลวดคาร์บอน ท่อเหล็กคาร์บอน ตะปูเหล็ก ลวดเย็บกระดาษ อะลูมิเนียมเส้นหน้าตัด ท่อเหล็กไร้ตะเข็บ จักรยานไฟฟ้า จักรยานสองล้อ ล้ออัลลอย เป็นต้น