- “จุรินทร์”เผยประกันรายได้ข้าวปีที่ 4
- เตรียมเสนอครม.สัปดาห์หน้า
- “อาคม” ยืนยัน ไม่ติดเพดานวินัยการคลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้นัดประชุมหารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน , นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ,นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)หรือสภาพัฒน์ ได้นัดประชุมหารือถึงงบประมาณการใช้จ่ายสำหรับโครงการประกันรายได้ข้าวปีที่ 4 และงบประมาณเยียวยาประชาชน ใช้เวลาหารือราว 30-45 นาที
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ประชุมครั้งนี้ มีข้อสรุปร่วมกันว่าจะนำเรื่องโครงการประกันรายได้ข้าว เสนอเข้าสู่การพิจารณาของครม.สัปดาห์หน้า โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องกลับไปสรุปรายละเอียดของวงเงินงบประมาณให้ชัดเจนอีกครั้ง เนื่องจากปัจจุบันราคาข้าวปรับตัวดีขึ้นมาก และราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิราคาสูงกว่าราคาประกัน และปีนี้ไทยส่งออกข้าวได้เพิ่มด้วย ส่งผลให้การใช้งปบระมาณในโครงการประกันราคาข้าว ลดลงเล็กน้อย และการจ่ายเงินในโครงการนั้น ยังคงเป็นไปตามนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและการช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 20 ไร่
“รมว.คลัง ได้ยืนยันในที่ประชุมว่า ไม่มีปัญหาเรื่องเพดานวินัยการคลัง ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ตามมาตรา 28 เพียงแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องไปทบทวนตัวเลขให้ชัดเจนสอดคล้องกับสถานการณ์จริง เบื้องต้นงบประมาณที่จะนำมาใช้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนั้น ลดลงเล็กน้อย ดังนั้นเมื่อทบทวนตัวเลขแล้วเสร็จ ก็จะนำเสนอครม.สัปดาห์หน้า หากผ่านการเห็นชอบจากครม.แล้ว ต่อไปจะเป็นขั้นตอนในการปฏิบัติต่อไป”
สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 4 จะดำเนินการเช่นเดียวกับ 3 ปีที่ผ่านมา โดยประกันรายได้ในข้าว 5 ชนิด ประกอบด้วยข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาประกัน 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาประกัน 14,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกปทุมธานี ราคาประกัน 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ราคาประกัน 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ราคาประกัน 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของขวัญปีใหม่ กระทรวงพาณิชย์นั้น จะจัดแกรนด์เซลล์ในช่วงปีใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังทำรายละเอียด กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้เลยตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ทำทุกปีอยู่แล้ว จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้เยอะที่สุด ในหมวดสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันทั้งอุปโภคและบริโภค ซึ่งจะดำเนินการในช่วงธันวาคมคาบไปถึงช่วงมกราคม
