.เดนมาร์กเผยผลวิจัยชี้ชัดหลังฉีดแบบผสมแล้ว 14 วัน
.เสี่ยงติดโควิดลดลง 88% เทียบคนยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
.ประสิทธิภาพอยู่ในระดับสูงเทียบเท่าฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม
สถาบันเซรุ่มแห่งเดนมาร์ก เผยผลวิจัย วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาเข็มแรก เมื่อใช้ร่วมกับวัคซีนไฟเซอร์/บิออนเทค หรือโมเดอร์นา เข็ม 2 มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อได้ดี
สถาบันฯ ระบุว่า ผลวิจัยพบว่า หลังฉีดวัคซีนแบบผสมไปแล้ว 14 วัน ความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 ลดลง 88% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ประสิทธิภาพดังกล่าวนับว่าอยู่ในระดับสูงเกือบเทียบเท่าประสิทธิภาพ 90% จากการได้รับวัคซีนของไฟเซอร์ 2 โดส ซึ่งข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจากงานวิจัยของเดนมาร์กอีกฉบับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยครั้งนี้ใช้ข้อมูลจากเดือนก.พ.-มิ.ย.64 ซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อัลฟาแพร่ระบาดเป็นสายพันธุ์หลัก ผลวิจัยจึงไม่สามารถสรุปได้ว่า การฉีดวัคซีนแบบผสมนั้น มีประสิทธิภาพเหมือนกันหรือไม่ในการป้องกันสายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในเดนมาร์กขณะนี้
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ขณะนี้หลายประเทศกำลังพิจารณาเปลี่ยนไปใช้วัคซีนของบริษัทอื่นสำหรับการฉีดวัคซีนโดสที่ 2 รวมถึงเดนมาร์ก หลังจากที่เดนมาร์กยกเลิกการใช้วัคซีนของแอสตราเซนเนกาตั้งแต่เดือนเม.ย. หลังมีรายงานพบการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน แม้จะเกิดขึ้นได้ยากก็ตาม
สำหรับชาวเดนมาร์กกว่า 144,000 ราย ที่ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ และผู้สูงอายุ วัคซีนของแอสตราเซนเนกาเป็นโดสแรก ก่อนจะได้รับของไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นาในเวลาต่อมา
