

- กรมควบคุมโรค เชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี
- ช่วยลดความเสี่ยงป่วยรุนแรงในสถานการณ์โควิด 19
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่มียอดผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ประกอบกับอยู่ในช่วงฤดูฝนที่เป็นฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ และมีวัคซีนป้องกัน โดยฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้กรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการรณรงค์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จึงขอเชิญชวนให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ทีสถานบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้าน และที่สถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และขอให้ติดตามข่าวสารเรื่องระยะเวลาในการฉีดวัคซีนต่อไป
สำหรับ 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่
1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
2.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี
3.ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน
4.ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
5.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
6.โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งรวมผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ
7.โรคอ้วน คือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ มีดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
“การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จะมีผลดี คือ หากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดความรุนแรงจากการป่วย และลดการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคนี้ได้ และในช่วงสถานการณ์โควิด 19 มีการศึกษาในสหรัฐอเมริกา และจีนพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด 19 มากกว่าร้อยละ 60 จะมีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอร่วมด้วย โดยหากผู้ป่วยติดเชื้อ 2 โรคนี้พร้อมกันจะเพิ่มความรุนแรง และมีโอกาสเสียชีวิตสูงขึ้น การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงเป็นการลดอาการแทรกซ้อนและความรุนแรงหากติดเชื้อโควิด 19 “
นายแพทย์โอภาสกล่าวต่อไปว่า ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ยกเว้น เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปีควรฉีดวัคซีนป้องกันทั้งไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนโควิด โดยเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด และต้องไม่ลืมป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือฟอกสบู่เป็นประจำ หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น งดการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทุกชนิด ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลสุขภาพได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422