- ดีเดย์ 8 ต.ค.นี้เป็นต้นไปรวมเกือบ 700 สาขา
- ทำคนตกงานกว่า 4.5 หมื่นคนไม่เว้นแม่บ้าน-รปภ.
- หลังซมพิษโควิด-19 จนแบกรับภาระต่อไปไม่ไหว
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ซินีเวิลด์ (Cineworld หรือ CINE.L) เชนโรงภาพยนตร์ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ประกาศจะปิดโรงภาพยนตร์ในสหราชอาณาจักร และสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้พนักงานกว่า 45,000 คนต้องตกงาน และมีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์
บริษัทได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ ยืนยันว่า จำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานของบริษัท รวมถึงพนักงานทำความสะอาด และพนักงานรักษาความปลอดภัยด้วย เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน และจำเป็นต้องถือเงินสดไว้ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการหาวิธีระดมทุน
“ซินีเวิลด์ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และจะแจ้งถึงแผนการในอนาคต ที่จะกลับมาดำเนินการอีกครั้งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม”
ทั้งนี้ ซีนีเวิลด์ จะปิดโรงภาพยนตร์ทั้งหมด 536 แห่งในสหรัฐฯ ส่วนในสหราชอาณาจักร จะปิดโรงภาพยนตร์ซีเนเวิลด์ และโรงภาพยนตร์พิกเจอร์เฮาส์ ซึ่งอยู่ในเครือรวมกันทั้งหมด 127 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.นี้เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ซินีเวิลด์ กลับมาเปิดโรงภาพยนตร์อีกครั้งเมื่อเดือนก.ค.63 หลังจากการล็อกดาวน์ของทั้ง 2 ประเทศ แต่การเลื่อนการฉายภาพยนตร์เรื่องเจมส์ บอนด์ 007 ตอนล่าสุด “โน ไทม์ โน ดาย” (No Time No Die) และภาพยนตร์ใหม่เรื่องอื่นๆ รวมถึง “แบล็ค วิโดว์” (Black Widow) ของค่ายมาร์เวลส์ ทำให้โรงภาพยนตร์ได้รับผลกระทบมาก
โบรกเกอร์หลายแห่งในลอนดอน คาดการณ์ว่า ในปีนี้ ราคาหุ้นของบริษัท ที่ลดลงไปแล้วกว่า 80% อาจลดลงอีก 30% จากระดับราคาในปัจจุบัน
