“จุรินทร์” ถก 4 สมาคมมันสำปะหลังรับมือราคาดิ่ง



  • ผู้ส่งออกกำชับสมาชิกห้ามตัดราคาขายกันเอง
  • พาณิชย์คุมเข้มนำเข้า-ขนย้าย-ไม่โกงตาชั่งชาวไร่
  • ดึงผู้ผลิตเอทานอล-อาหารสัตว์ช่วยซื้ออีกแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 6 ม.ค.63 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้หารือกับ 4 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกี่ยวกับสถานการณ์และแนวทางการดูแลราคามันสำปะหลังให้กับเกษตรกร ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากในขณะนีเ

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า แนวโน้มราคายังคงเป็นขาขึ้น เพราะมีความต้องการซื้อมันเส้นจำนวนมากจากจีนเพื่อผลิตแอลกอฮอล์ โดยราคาแอลกฮอล์ (เอฟโอบี ขนส่ง ณ ท่าเรือ) ปัจจุบันอยู่ที่ตันละ 280 เหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นราคาหัวมันสดได้กิโลกรัม (กก.) ละ 2.50 บาท แต่ราคาซื้อขายในประเทศปัจจุบันเฉลี่ยกก.ละ 2.20 บาท จึงมีความเป็นห่วงว่า หากผลผลิตออกสู่ตลาดมาก จะกระทบต่อราคาที่เกษตรกรจะขายได้ ดังนั้น 4 สมาคม จึงมาขอเข้าพบรมว.พาณิชย์ และเสนอมาตรการผลักดันราคา

“การหารือได้ข้อสรุปว่า ในส่วนของการส่งออก สมาคมที่เกี่ยวข้อง จะดูแลสมาชิกไม่ให้ขายตัดราคา เพื่อรักษาระดับราคาส่งออกไม่ให้ตกลง ส่วนกรมจะกำกับดูแลการส่งออกให้เป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานที่กำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ซื้อใช้เป็นข้ออ้างกดราคารับซื้อผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากไทย หากพบว่า ไม่เป็นไปตามาตรฐาน จะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด”

ขณะเดียวกัน จะเข้าไปดูแลการนำเข้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เช่น ขึ้นทะเบียนผู้นำเข้า รายงานการนำเข้า ต้องมีสถานที่เก็บสินค้าที่นำเข้าเฉพาะแยกจากสถานที่รับซื้อภายในประเทศ ต้องนำเข้าผ่านจังหวัดและด่านศุลกากรกับจุดที่กำหนด เป็นต้น และยังได้ขอความร่วมมือกรมศุลกากร และฝ่ายความมั่นคงให้ช่วยดูแลเรื่องการลักลอบนำเข้าด้วย

สำหรับมาตรการอื่นๆ กรมการค้าภายในจะหารือกับผู้ผลิตเอทานอล เพื่อนำมันสำปะหลังไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์ และผู้ผลิตอาหารสัตว์ในประเทศ เพื่อนำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีการลงนามในบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) รับซื้อมันสำปะหลังจากเกษตรกร เพื่อเพิ่มทางเลือกในการขายผลผลิตให้กับเกษตรกรต่อไป เพราะหากขายในประเทศได้ ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการส่งออกเพียงอย่างเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า กรมการค้าภายใน จะจัดส่งสายตรวจและนายตรวจชั่งตวงวัดออกตรวจสอบการรับซื้อหัวมันสดว่ามีการวัดเปอร์เซ็นต์แป้ง การชั่งน้ำหนัก เป็นธรรมหรือไม่ และตรวจสอบการขนย้ายมันสำปะหลังสด หรือมันเส้นว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ด้วย หากเกษตรกรพบเห็นหรือถูกเอารัดเอาเปรียบ ร้องเรียนได้ที่สายด่วน โทร.1569 ทั้งนี้ ในปี 63/64 คาดว่าผลผลิตมันสำปะหลังของไทย จะมีประมาณ 28 ล้านตัน โดยปัจจุบันผลผลิตออกสู่ตลาดแล้ว 40% ยังเหลืออีก 60% ที่กำลังทยอยออกสู่ตลาด