

- ลุยหาตลาด-พบผู้ซื้อเสนอขายสินค้าไม่ใช่ไปเสวยสุข
- ลั่นใครผลงานไม่เข้าตาเตรียมเอาตัวกลับส่วนกลางแน่
- หวังส่งออก-ค้าขายในประเทศดันเศรษฐกิจไทยทะยาน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เตรียมมอบนโยบายการทำงานให้กับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้เข้าใจนโยบายการทำงานและขับเคลื่อนการส่งออก ที่จะต้องเพิ่มความเข้มข้น เพราะขณะนี้เป็นช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่การทำงานจะหยุดไม่ได้ ต้องปรับแผนการทำงานให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น เพื่อผลักดันการส่งออกของไทยให้ขยายตัวได้มากที่สุด
“ผมเคยให้นโยบายไปแล้วว่า ทูตพาณิชย์ คือ เซลส์แมนของประเทศ ต้องทำหน้าที่เป็นเซลส์แมนจริงๆ ไม่ใช่ทำแต่ในนาม ต้องวิ่งเข้าหาลูกค้า ต้องไปขายของ แล้วต้องปรับตัวชี้วัดผลการทำงานใหม่ จะวัดว่าทูตพาณิชย์ทำงานสำเร็จหรือไม่ ต้องดูที่ตัวเลขการส่งออกของไทยไปยังประเทศที่ตัวเองอยู่ เพิ่มขึ้นหรือไม่ ขายสินค้าอะไรได้บ้าง ช่วยแก้ไขปัญหาอุปสรรคการส่งออกอะไร พาผู้ประกอบการไปเจาะตลาด หรือแนะนำการเจาะตลาดได้มากน้อยแค่ไหน เหล่านี้ ไม่ใช่ไปเป็นเจ้านายผู้ส่งออก ต้องช่วยเหลือเขาจริงๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะนำมาใช้เป็นตัวชี้วัด ไม่ใช่แค่ทำรายงานข้อมูลการค้า สถานการณ์การค้า ไม่เพียงพอแล้วในยุคปัจจุบัน”
โดยเบื้องต้นจะสั่งการให้นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ รับไปดำเนินการต่อ และให้นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กำชับการทำงานของทูตพาณิชย์ให้เป็นไปตามนโยบาย หากทูตพาณิชย์ทำไม่ได้ หรือไม่ทำ ต้องเอาตัวกลับมาอยู่ส่วนกลาง ไม่ต้องรอให้อยู่ครบวาระ 4 ปีจึงจะเอากลับเหมือนที่ผ่านมา เพราะทำแบบนี้ ประเทศเสียหาย เสียประโยชน์
ส่วนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ จะมอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ปรับโฉมการทำงานของพาณิชย์จังหวัด ในฐานะเซลส์แมนจังหวัดใหม่ด้วย โดยต้องทำหน้าที่เหมือนพ่อค้า ติดต่อค้าขาย ประสานงานให้เกิดการค้าขาย เชื่อมโยงการค้า ซึ่งที่ผ่านมา หลายจังหวัดทำได้ดี แต่ยังมีอีกหลายจังหวัด ที่การทำงานไม่มีความคืบหน้า ต้องมีตัวชี้วัด เพื่อวัดผลงาน ไม่เช่นนั้น จังหวัดที่ทำก็ทำ จังหวัดที่ไม่ทำ ก็ยังไม่ทำ