

- หลังเรือสินค้าขวางคลองสุเอซทำเรืออื่นผ่านไม่ได้
- เล็งหารือผู้นำเข้าขยายระยะเวลาส่งมอบสินค้า
- คาดกระทบส่งออกไทยไปอียิปต์-ยุโรปไม่มากนัก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ติดตามการกู้เรือสินค้า Ever-Given ศึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ เสียหลักเกยตื้น อละขวางคลองสุเอซ ไม่สามารถนำเรือออกมาได้ อละเรือขนส่งสินค้าอื่นๆ ก็ไม่สามารถผ่านทางเส้นนร้ได้นั้น ระหว่างนี้กำลังมีความพยายามเร่งกู้เรือเพื่อให้การเดินเรือสามารถเดินหน้าไปได้ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
“ระหว่างนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้ประสานงานกับผู้ส่งออก สายการเดินเรือ และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศแล้วว่า หากการกู้เรือยืดเยื้อ จะแก้ปัญหาโดยการเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือใหม่ในการขนส่งสินค้า จากเดิมที่ผ่านคลองสุเอซไปยุโรป และภูมิภาคอื่น จะเปลี่ยนไปใช้เส้นทางผ่านแหลมกูดโฮป ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา ก่อนอ้อมไปยุโรป แต่จะต้องใช้เวลามากขึ้นประมาณ 10 วันและค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นด้วย ขณะเดียวกัน จะประสานงานกับผู้นำเข้าและส่งออก ขอขยายเวลาการส่งสินค้า เพราะติดปัญหาเรือขวางสุเอซ โดยให้สำนักงานส่งเสริมการค้าประจำประเทศอียิปต์เป็นตัวกลางในการประสานงาน เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องค่าขนส่งที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้สำนักงานพาณิชย์ต่างประเทศ ณ กรุงไคโร กำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และประสานงานการช่วยเหลืออยู่ โดยกระทรวงพาณิชย์ จะหารือแนวทางช่วยเหลือภาคเอกชนอย่างเต็มที่”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี เรือ Ever-Given ติดขวางคลองสุเอซ ขณะนี้ปัญหาที่เห็นได้ชัด คือ ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวขึ้น เนื่องจากคลองสุเอซเป็นช่องทางสำคัญในการขนส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ คิดเป็นสัดส่วนราว 5-10% การขนส่งทั้งโลก รวมทั้งปริมาณการค้าราว 12% ของโลก ก็ขนส่งผ่านคลองสุเอซ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้ประเมินผลกระทบที่อาจเกิดกับการส่งออกของไทยไปภูมิภาคแอฟริกาตอนเหนือ โดยเฉพาะอียิปต์ ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับต้นของไทย และเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ในภูมิภาคนี้ เบื้องต้นน่าจะกระทบกับสินค้าที่อยู่ระหว่างการส่งมอบในเดือนมี.ค.นี้ ที่จะติดขัดและล่าช้าออกไป โดยสินค้าสำคัญ ได้แก่ อาหารแปรรูป ปลาทูนากระป๋อง ชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 30% ของการส่งออกไทยมาอียิปต์
สำหรับในเดือนเม.ย.นี้ การส่งออกไทยไปอียิปต์ น่าจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวมากนัก เนื่องจากผู้ซื้อชะลอคำสั่งซื้อออกไปเพื่อรอดูผลการเริ่มใช้งานระบบการแจ้งข้อมูลการนำเข้าสินค้าล่วงหน้า ที่รัฐบาลอียิปต์ประกาศเริ่มใช้ในวันที่ 1 เม.ย. 64 เพราะหลายฝ่ายยังไม่แน่ใจเกี่ยวแนวทางการปฏิบัติ และวิธีในการส่งเอกสารซึ่งจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้ส่งออก/ชิปปิ้งไทยที่จะต้องส่งเอกสารผ่านระบบ blockchain แทนการส่งเอกสารในรูปแบบเดิมๆ
นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสินค้าไทย ที่ขนส่งผ่านคลองสุเอซเพื่อส่งต่อไปภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะยุโรป ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยเช่นเดียวกัน ดังนั้น นายจุรินทร์ จึงได้สั่งการ ให้หน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ ติดตาม ประสานงาน และแก้ไขปัญหา และให้รายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องด้วย