จุรินทร์ถกผู้ผลิตสินค้ารับมือคนไทยตื่นโควิด-19แห่ตุน

  • ยันสินค้าไม่ขาดแคลนแน่นอนเหตุยังผลิตไม่เต็มที่
  • พร้อมประสานเอกชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
  • ขณะที่ยูนิลิเวอร์เดินเครื่องผลิตสบู่เหลวเต็มสูบ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อรับมือในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ว่า การหารือครั้งนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิต และการค้าสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงโควิด-19 ระบาด รวมถึงเตรียมการรองรับมาตรการอื่นๆ ของรัฐบาล ที่จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และจะเข้าสู่การพิจารณของคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 มี.ค.นี้ ซึ่งอาจทำให้มีความต้องการซื้อสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้น 

“ครั้งนี้ ได้หารือกับผู้ผลิตข้าวถุง เจลล้างมือ อาหารสำเร็จรูป และสินค้าอื่นๆ เช่น สบู่เหลว กระดาษทิชชู เป็นต้น เพื่อให้แต่ละกลุ่มรายงานสถานการณ์ ซึ่งทำให้เห็นภาพรวมว่า อาหารสำเร็จรูปนั้น มีแนวโน้มยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้น และกำลังการผลิตณปัจจุบันยังอยู่ประมาณ 70% ซึ่งยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 30%

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ จะติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด และจะประสานงานกับผู้ผลิต ผู้ค้า สมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตลอดเวลา โดยกรมการค้าภายในจะเป็นหน่วยงานหลักในการคลี่คลายสถานการณ์ และประสานงาน” 

ด้านนายระพีพัชญ์ ธนถาวรกิตติ์ นายกผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า ผู้ผลิตข้าวถุงยังคงผลิตสินค้าป้อนให้กับตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าข้าวสารจะไม่ขาด 

ขณะที่นางณัฏฐินี เนตรอำไพ ผู้จัดการอาวุโสส่วนองค์กรและสื่อมวลชนสัมพันธ์บริษัท ยูนิลิเวอร์ กล่าวว่า อยากให้ประชาชนมั่นใจว่าสินค้าอุปโภคบริโภคจะมีเพียงพอแน่นอน ส่วนสินค้าที่จำเป็นสำหรับการฆ่าเชื้อ เช่น สบู่เหลว บริษัทเตรียมขยายการผลิตเพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชนแล้ว ซึ่งมีหลายแบรนด์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีสารต่อต้านแบคทีเรีย ขณะที่ผลิตภัณฑ์เจลล้างมือขนาดเล็ก เพื่อให้ประชาชนสามารถพกพานำไปใช้ได้นั้น บริษัทพร้อมหาบรรจุภัณฑ์และวัตถุดิบมาผลิตเพิ่มเติม ขอให้ประชาชนมั่นใจในส่วนของสบู่เหลวยูนิลิเวอร์ได้ขยายกำลังการผลิตเรียบร้อยแล้วซึ่งมีอยู่หลายแบนรวมทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีสารต่อต้านแบคทีเรียโดยมีการขยายกำลังการผลิต เพิ่มขึ้นถึงหนึ่งเท่าตัว