จุดพลุเปิดตัว “บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด” แหล่งเงินกู้แห่งใหม่เพื่อรายย่อย ชูดอกเบี้ยต่ำ ค่าธรรมเนียมเป็นธรรม



  • ย้ำรับเงินเต็ม ให้กู้สินเชื่อที่ดิน รับจำนอง-ขายฝาก
  • มุ่งช่วยประชาชน เสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการ
  • เปิดให้กู้ทั้งบุคคลธรรมดา วงเงินกู้ 300,000 บาท ถึง 10 ล้านบาท นิติบุคคล กู้ตั้งแต่ 300,000 บาท ถึง 50 ล้านบาท

นายอิสระ วงศ์รุ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด นั้นจัดตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท โดยการร่วมทุนของธนาคารออมสิน ในสัดส่วนหุ้น 49% พร้อมด้วย บริษัท ทิพย เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด ถือหุ้น 31% และกลุ่มบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 

20% โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และประชาชนรายย่อย เพื่อช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบ และสร้างการแข่งขันที่สมบูรณ์ในตลาดสินเชื่อที่ดินและขายฝาก ลดความเหลื่อมล้ำทางการเงิน รวมถึงเป็นช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนดอกเบี้ยที่ถูกลง

ทั้งนี้ ตามที่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ก็ได้มอบหมายให้ นายวิทัย รัตนากร กรรมการในคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินฯ และผู้อำนวยการธนาคารออมสิน หาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สิน เติมสภาพคล่องช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ โดยหนึ่งในแนวทางที่ธนาคารออมสินดำเนินการ คือ ได้ร่วมทุนจัดตั้งบริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด เมื่อกลางปี 2565 ที่ผ่านมา

 “นับเป็นครั้งแรกที่มีหน่วยงานภาครัฐร่วมกันจัดตั้งบริษัทและถือหุ้นใหญ่ เป็นแหล่งเงินกู้แห่งใหม่เพื่อให้บริการสินเชื่อที่เข้าถึงได้ด้วยการคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมไม่สูงเกินไป บัดนี้ บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด พร้อมเปิดให้บริการสินเชื่อที่ดินแล้ว โดยให้เงินกู้เสริมสภาพคล่องยามฉุกเฉินให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในยามเดือดร้อน มีความจำเป็นต้องการใช้เงินสดในยามฉุกเฉิน หรือเติมทุนหมุนเวียนกิจการที่กำลังหาเม็ดเงินเสริมสภาพคล่อง หรือต้องการต่อยอดธุรกิจ รวมถึง รีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมเพื่อบรรเทาภาระดอกเบี้ย” 

ทั้งนี้ สินเชื่อที่ดิน มีเป้าหมายช่วยเหลือธุรกิจ SMEs โดยเปิดรับจำนองที่ดิน และขายฝาก รีไฟแนนซ์ ให้กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดา วงเงินกู้ 300,000 บาท ถึง 10 ล้านบาท และนิติบุคคล วงเงินกู้ตั้งแต่ 300,000 บาท จนถึง 50 ล้านบาท ให้วงเงินกู้สูงสุด 70% ของราคาประเมินที่ดินราชการ คิดอัตราดอกเบี้ย ปีแรก 6.99-8.99% ต่อปี ปีที่ 2 เป็นต้นไปMLR+สูงสุดไม่เกิน 2.85% ต่อปี (ปัจจุบัน MLR = 6.150% ต่อปี) ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 5 ปี แบบลดต้นลดดอก พร้อมปลอดชำระเงินต้นนาน 1 ปี ที่สำคัญคือ ไม่เช็คเครดิตบูโร ไม่ตรวจสอบรายได้ และไม่ต้องใช้บุคคลค้ำประกัน รวมถึงหากเป็นที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุด หรือคอนโดมิเนียม ให้วงเงินกู้สูงสุด 50% ของราคาประเมินที่ดินราชการ ที่สำคัญรู้ผลภายใน 7 วันทำการ

ทั้งนี้ ตั้งเป้าปี 2566 คาดว่าจะมียอดปล่อยสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือประชาชนรายย่อยและผู้ประกอบการได้ประมาณ 4,000–5,000 ราย โดยได้ให้บริการนำร่องไปแล้วในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร และสมุทรปราการ และเตรียมให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่ ม.ค.2566 พร้อมกับมีแผนขยายบริการไปตามหัวเมืองใหญ่ทุกภูมิภาค ในต้นปี 2566 และทั่วประเทศตั้งแต่กลางปี 2566 เป็นต้นไป โดยมีสาขาของธนาคารออมสินเป็นหลักในการให้บริการ