- พร้อมโชว์ “แกะหอยมุกสุ่มสี” ให้ลูกค้าลุ้นกว่า 50 สี
- หลังพบระบาดหนักในสื่อโซเชียล-อีมาร์เก็ตเพลส
- ย้ำมุกจริงมีแค่ 4 สี ขาว ครีม เหลืองอ่อน ดำ เท่านั้น
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที เปิดเผยว่า ขณะนี้พบการซื้อขายไข่มุกในรูปแบบใหม่ ที่กำลังแพร่หลายอย่างมากในสื่อสังคมออนไลน์ และในเว็บไซต์ขายสินค้า โดยเป็นการขายไข่มุกที่เสมือนแกะสดจากตัวหอย หรือที่เรียกว่า “แกะหอยมุกสุ่มสี” โดยผู้ขายมักจะถ่ายทอดสด (Live) การแกะหอยมุก เพื่อให้ลูกค้าสามารถลุ้นสี และขนาดของไข่มุกที่อยู่ภายในตัวหอย และส่วนใหญ่จะโฆษณาว่าหอยมุกที่นำมาจำหน่ายนั้น เป็นหอยมุกเลี้ยงน้ำเค็ม มีสีมากกว่า 50 เฉดสี และยังพบการจำหน่ายหอยมุกแบบเปิดลุ้นไข่มุกด้วยตนเอง ในแอปพลิเคชันขายของออนไลน์ ที่มีการโฆษณาว่าเป็นหอยมุกน้ำเค็ม และหอยมุกอะโกย่า โดยมีราคาตัวละ 180–650 บาท ซึ่งส่วนใหญ่มีแหล่งผลิต และนำเข้ามาจากจีน
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจากฟาร์มเลี้ยงหอยมุก พบว่า ไม่ใช่หอยมุกทุกตัวที่จะผลิตไข่มุกคุณภาพดี ที่นำมาทำเป็นเครื่องประดับได้ แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย เช่น ชนิดของหอยมุก สภาพแวดล้อม และระยะเวลาในการเลี้ยง อีกทั้งสีของไข่มุกเลี้ยง จะมีเพียงไม่กี่สี ได้แก่ ขาว ครีม เหลืองอ่อน และดำ ดังนั้น การจำหน่ายไข่มุกในลักษณะดังกล่าว อาจเข้าข่ายการสำแดงข้อมูลสินค้าไม่ครบถ้วน เช่น ชนิดของไข่มุก และประเภทของการปรับปรุงคุณภาพสี ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิดได้
“จีไอที ขอให้ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อไข่มุก ต้องซื้อจากร้านที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และสินค้าต้องมีใบรับรอง ไม่เช่นนั้นแล้ว อาจถูกหลอกลวงได้ โดยปัจจุบัน จีไอทีให้การรับรองร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ หรือ Buy With Confidence (BWC) ไปแล้วกว่า 300 รายทั่วประเทศ หากต้องการซื้อไข่มุก หรืออัญมณีและเครื่องประดับ สามารถสังเกตร้านค้าที่มีตราสัญลักษณ์ BWC เพราะจะมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีคุณภาพมาตรฐานถูกต้อง”
สำหรับไข่มุก หรือมุก มีทั้งไข่มุกธรรมชาติ ที่ปัจจุบันหายากมาก และมีราคาแพง และไข่มุกเลี้ยง ซึ่งไข่มุกส่วนมากในท้องตลาด ล้วนเป็นไข่มุกเลี้ยงทั้งสิ้น ส่วนมุกเลี้ยงน้ำเค็ม มีลักษณะค่อนข้างกลม และขนาดใหญ่ กระบวนการเลี้ยงซับซ้อนและต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการควบคุมสภาวะแวดล้อมให้เหมาะสม โดยหอยมุกน้ำเค็มสามารถผลิตไข่มุกได้ครั้งละ 1-2 เม็ดเท่านั้น ทำให้มีมูลค่าที่สูง และเป็นที่นิยมมากในท้องตลาด ไข่มุกเลี้ยงน้ำเค็มที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ไข่มุกอะโกย่า , ไข่มุกเซ้าท์ซี และไข่มุกตาฮิติ
