

- ผลิตแอลกอฮอล์รับมือโควิดระบาดหนัก
- พาณิชย์แนะชาวไร่อย่าเร่งขุดมันอ่อน-ไร้คุณภาพ
- รอให้อายุ 8-12 เดือนก่อนหวั่นเป็นข้ออ้างถูกกดราคาซื้อ
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ราคาแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากมันสำปะหลังในตลาดจีน พบว่า ขณะนี้ราคาเพิ่มขึ้นจากช่วงปลายเดือนพ.ย. 65 มากจากเฉลี่ย6,700 หยวน/ตัน มาอยู่ที่เฉลี่ย 7,250 หยวน/ตัน สะท้อนให้เห็นว่า จีนมีความต้องการแอลกอฮอล์ทางการแพทย์เพิ่มมากขึ้น เพื่อใช้รับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์ ผซีโควิด) ตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.65 เป็นต้นมา ถือเป็นโอกาสทองของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยในการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเพื่อแปรรูปเป็นแอลกอฮอล์
“จากความต้องการของตลาดจีน ที่มีอยู่มาก จึงขอให้ผู้ประกอบการเร่งรวบรวมผลผลิตมันสำปะหลังที่มีคุณภาพดี ตรงตามความต้องการของตลาด โดยขอให้เกษตรกรขุดหัวมันที่มีอายุ 8-12 เดือน เพื่อรักษาคุณภาพผลผลิตให้มีน้ำหนักและเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่สูง เพราะจะทำให้ขายได้ในราคาดี และยังทำให้ได้ท่อนพันธุ์ ที่มีคุณภาพดีสำหรับเก็บไว้เพาะปลูกในปีการผลิตถัดไป รวมถึงผู้ซื้อจะได้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีด้วย”

อย่างไรก็ตาม กรมจะเข้มงวดรตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานการนำเข้า และส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสูง มีความชื้นและสิ่งเจือปนต่ำ ที่สำคัญ จะช่วยลดโอกาสที่ผู้ซื้อจะใช้เรื่องคุณภาพมาตรฐานเป็นข้ออ้างกดราคารับซื้อผลิตภัณฑ์มันจากไทย
นายรณรงค์ กล่าวว่า จากการสำรวจภาวะการผลิตและการค้ามันสำปะหลังของภาคเอกชน 4 สมาคมได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า ปีนี้ ปริมาณผลผลิตของไทยอาจมีไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด เพราะผลผลิตบางส่วนเสียหายจากภัยธรรมชาติและโรคศัตรูพืช รวมทั้งเกษตรกรบางส่วนได้หันไปปลูกข้าวโพดทดแทนมันสำปะหลังที่เสียหายจากน้ำท่วม จึงคาดว่า ปีการผลิต 65/66 จะยังคงเป็นอีกหนึ่งปีทองของปลูกมันสำปะหลังของไทยแน่นอน
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย.65 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 10.10 ล้านตัน มูลค่า 4,027.42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้น 8.95% และ 14.15% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ส่งออกได้9.273 ล้านตัน มูลค่า 3,528.23 ล้านเหรียญฯ