

- ถาม “พล.อ.ประยุทธ์” 7 ปี แก้ปัญหาทุจริตแบบเช้าชามเย็นชามหรือไม่
- ด่าใครไม่ได้ก็ด่ารัฐบาลที่แล้ว
- ย้ำไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.56 น. วันที่ 1 ก.ย. 2564 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เป็นผู้อภิปรายคนสุดท้ายของฝ่ายค้านสำหรับวันที่ 1 ก.ย. โดยญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยกล่าวก่อนอภิปรายว่าอยากให้รัฐมนตรีชี้แจงบ้าง เพราะฝ่ายค้านอภิปรายคนสุดท้ายแล้ว พร้อมขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใจร่มๆ อดทนอีก 2 วัน ไม่ต้องหัวเสีย ระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องปกติ และอยากบอกว่าสภาฯ เหงา เพราะเพิ่ง 20.00 น. แต่รัฐมนตรีเหลือเพียง 3-4 คนในสภาฯ โดยวันนี้ อภิปรายไม่ไว้วางใจในเวลา 20.50 น.
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย ยังตรวจสอบทุจริตหลายกระทรวง และจะส่งข้อมูลตรงให้นายกรัฐมนตรีจับทุจริต พร้อมกล่าวถึงกรณีไปยื่นร้องเรียน นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรณีการทุจริตบ้านเคหะสุขประชา ซึ่งไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน พิจารณาส่งไปให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา
โดยบรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วงใจ เป็นไปอย่างเข้มข้น โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พิจารณาและรายงาน เน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยระหว่างนั้น นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม บอกให้ นายจิรายุ อย่าใช้อารมณ์มากไป เรียกเสียงหัวเราะในสภาฯ
จากนั้น นายจิรายุ ได้อภิปรายต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตรวจสอบ นายจุติ เพราะสาเหตุใด จึงส่งไปขอเปลี่ยนตัวกรรมการ ได้รับตอบกลับมาว่าสำนักเลขาธิการนายากรัฐมนตรีเรียนนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ส่วนตัวเชื่อว่านายกรัฐมนตรีไม่รู้ หรือรู้แต่กลัวพรรคร่วมรัฐบาลไม่ยกมือให้ และหากตนเองในฐานะประธานกรรมาธิการไม่ทำ ก็ถือว่าละเว้นในฐานะเจ้าพนักงาน และยังกล่าวไปถึงเรื่องการประมูลรถไฟสายสีส้มเกิดความเสียหายกว่า 40,000 ล้านบาทด้วย
นายจิรายุ กล่าวว่า รู้สึกกระอักกระอ่วนใจรัฐบาลชุดนี้ดีแต่พูด ดีแต่คุยโม้โอ้อวดว่าตรวจสอบทุจริต แค่ตรวจสอบอย่างนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ทำ แล้วเรื่องระดับชาติประชาชนจะคาดหวังอะไรได้ ส.ส. ที่เป็นปากเสียงประชาชนทักแล้วทักอีกพูดแล้วพูดอีก รัฐมนตรีก็ยังเพิกเฉย นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้สนใจ แต่งตั้งโยกย้ายก็ทำกันเหมือนเดิม ตำรวจเป็นแสนนายเคยเอาชื่อมาเรียงดูหรือไม่ ว่าคนทำงานจริงๆ มีเท่าไร เคยตั้งใจตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ และไม่เคยว่า นายจุติ แต่บอกว่าลูกน้องท่านเนี่ยแสบ
ทั้งหมดที่ผมเอ่ยมา เจตนาเพื่อจะให้รัฐบาลคิดและทบทวนว่า ผ่านมาแล้ว 7 ปี ท่านได้แก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนแบบเช้าชามเย็นชามหรือไม่ ท่านคุยโอ้อวดว่าอย่างโน้นอย่างนี้ สุดท้ายท่านด่าใครไม่ได้ก็ด่ารัฐบาลที่แล้ว ผมจึงไม่สามารถไว้วางใจท่านนายกรัฐมนตรีให้บริหารราชการแผ่นดินได้ และผมจะดูวันเสาร์นี้ที่ลงมติว่าสมาชิกจะโหวตให้กับนายกรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลมากน้อยขนาดไหน