จากส่วยทางหลวง…ถึงส่วยโกดังพลุระเบิด ถึงเวลา “ปฏิรูปตำรวจ”

“ส่วยทางหลวง” เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ามีจริง มีมาตลอด และยังมีต่อไป พอโป๊ะแตกที สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การโยกย้ายตำรวจ แล้วเรื่องก็ค่อยๆเงียบหายไปในสายลม

“ส่วยทางหลวง” สร้างความเสียหายให้กับประเทศ และประชาชนคนทำมาหากิน เดินดิน ไม่มีสติกเกอร์ อับจนด้อยค่าเพราะขาด “อำนาจเงิน” จะถูกรีดไถเป็นรายครั้ง ส่วนรายใหญ่จ่ายเป็นก้อน

รถใหญ่บรรทุกน้ำหนักเกิน สร้างความเสียหายให้กับถนน แตกร้าว ทรุด เกิดอันตรายกับผู้สัญจร โดยที่นายทุนได้ประโยชน์ในการลดต้นทุน บรรทุกครั้งหนึ่งเอาให้คุ้ม แต่ถนนพัง ประเทศต้องตั้งงบประมาณมาซ่อมแซม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ถ้าใครเคยเดินทางจากกทม.ไปจังหวัดสุพรรณบุรี จะพบว่า ทุกวันนี้ถนนคอนกรีตอย่างดี มีการแตกร้าวแทบตลอดเส้นทาง และที่ผ่านมาก็ได้รับการซ่อมแซมมานับครั้งไม่ถ้วน ซ่อมครั้งหนึ่งการจราจรก็ติดขัด ต้องเบี่ยงเส้นทาง

สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ จะพบเห็นรถตำรวจทางหลวง ขับรถเปิดไฟฉุกเฉิน ไล่จับรถกระบะบรรทุกสินค้าเกษตรเป็นประจำ ซึ่งไม่มีทางที่น้ำหนักบรรทุกจะทำให้ถนนแตกร้าวอย่างแน่นอน ด้วยขนาดตัวรถและพื้นที่อันจำกัดของตัวรถ ขณะที่รถบรรทุกขนาดใหญ่บรรทุกมาจนล้น วิ่งทีถนนสะเทือนจนชาวบ้านรับรู้ได้ แต่ตำรวจไม่รู้สึกอะไร ไฟเขียวปล่อยผ่านตลอดถ้ามีสติกเกอร์

รถที่ตำรวจขับก็มาจากภาษีประชาชน น้ำมันที่เติมก็มาจากภาษีประชาชน เงินเดือนก็มาจากภาษีประชาชน แล้วยังจะขูดรีดประชาชนหาเช้ากินค่ำ แต่ก้มหัว ปิดตาให้กับคนมีอำนาจเงิน รับส่วยเป็นกอบเป็นกำ มีแต่ได้ทุกอย่าง ขาดอย่างเดียวคือ “จิตสำนึก”

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นหลักฐานเห็นอยู่ตำตาก็คือ ถนนแตกร้าว ทรุด พัง ไปตลอดเส้นทาง โป๊ะแตกเมื่อไหร่ก็ย้ายหายหน้าไปที ไปหากินที่อื่น ทำร้ายประเทศ หากินกับประชาชนและนายทุนที่อื่นต่อไป หรือไม่วันดีคืนดีพอเรื่องเงียบก็กลับมาพื้นที่เดิม เป็นมือไม้ให้ “นาย” คนเดิม

เหตุโกดังพลุระเบิด ที่มูโนะ จ.นราธิวาส ก็เช่นกัน ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงพบเห็นทุกวันว่ามีการขนพลุ ขนประทัด เข้าโกดังเป็นจำนวนมาก ไปแจ้งตำรวจก็เงียบหาย ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนท้ายที่สุดก็เกิดเหตุที่สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เพียงเพราะคนรักษากฎหมายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ควรเลิกเสียทีระบบการโยกย้ายตำรวจออกจากพื้นที่เมื่อโป๊ะแตก สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แล้วเกิดความเสียหายเกิดขึ้น ก็ต้องให้ออกจากราชการทันที รวมทั้งเข้ามารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้นด้วย ถนนพังก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบจ่ายค่าซ่อมถนน โกดังพลุระเบิด ก็ต้องมาจ่ายค่าความเสียหายไล่ไปตามลำดับชั้น

ตอนสอบเข้ามาบางคนก็โกงข้อสอบ ใช้เส้นสายจ่ายเงินสารพัดวิธี พอได้เป็นเจ้าหน้าที่ก็ซื้อตำแหน่ง ถอนทุนคืนสารพัดเช่นกัน พอถูกจับได้ก็โยกย้าย วนเวียนอยู่แบบนี้เป็นวงจรอุบาทว์ ไม่ใช่มีเฉพาะ ส่วยทางหลวง ส่วยโกดังพลุระเบิด ยังมีส่วยก่อสร้าง ส่วยแรงงานต่างด้าว ส่วยผับบาร์ ฯลฯ แตะตรงไหนโดนตรงนั้น

ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่จะจัดการแบบจริงจังเสียที ในเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนกับประชาชน และสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างใหญ่หลวง ยังไม่ต้องไปไกลหรือถกเถียงกันถึงการแก้มาตรา112 หรือ ปฏิรูปกองทัพหรอก

เอาที่เป็นปัญหาใกล้ชิดกับชาวบ้านมาเนิ่นนาน ไม่เคยได้รับการแก้ไข แม้แต่รัฐบาล 9 ปี ที่บอกตอนเข้ามาจะปฏิรูปอะไรมากมาก สุดท้ายก็แขวน “ปฏิรูปตำรวจ” เอาไว้ ขอวิงวอนให้รัฐบาลใหม่ ไม่ว่าจะออกมาหน้าไหนขอให้แก้เรื่องนี้กันจริงจัง แล้วจะสร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศได้อย่างมากมาย เรียกคะแนนเสียงได้ทั่วประเทศอย่างแน่นอน

คนชายขอบ