“จับกัง1” โต้ผู้นำฝ่ายค้าน ชี้ตัวเลขตกงาน 8 ล้านคน ไม่มีเป็นจริง



  • แรงงานในระบบว่างงาน 714 ,268 คน
  • รับปากถอดเครื่องช่วยหายใจ พาคนใกล้ตายออกจาก ICU
  • ดันดิจิตอลแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทํา”

วันที่ 16 .นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน  และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงงานเสวนา “ฝ่ายค้านฟัง กลุ่มเปราะบางจากวิกฤติโควิด” เวทีที่ 1 ความเดือดร้อนแรงงานในและนอกระบบจากวิกฤติโควิด-19 ที่กลุ่มงานผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 .ว่า  ต้องขอขอบคุณนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้าน และสมาชิกฝ่ายค้าน ที่เสนอข้อมูล และทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในภาคแรงงาน ทั้งนี้ข้อเสนอต่างๆที่เป็นประโยชน์  ทางกระทรวงแรงงานพร้อมรับและรับไปดำเนินการทันที  อย่างไรก็ตาม ปัญหาคนว่างงานเป็นเรื่องที่ ท่าน พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมท่านพล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความห่วงใยเป็นอย่างมากและ ที่ผ่านมาได้ท่านได้เร่งรัดแก้ไขตามกลไกลต่างๆของกระทรวง 

ทั้งนี้ในส่วนของเรื่องคนตกงานที่มีการกล่าวว่ามีมากถึง 8 ล้านคน ขอชี้แจงว่าตัวเลขดังกล่าวไม่มีหลักฐานอ้างอิง ผมในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานหรือหัวหน้าผู้รับใช้แรงงาน มีความจำเป็นที่ต้องยึดถือตัวเลขจากระบบเพราะจากข้อมูลแรงงานที่อยู่ในระบบผู้ประกันตนนั่นมีทั้งหมดตามมาตรา 33-39-40 มีประมาณ 16.3 ล้านคน และช่วงโควิด-19 ผู้ที่ประกันตนในระบบประกันสังคม  สำนักงานประกันสังคมได้รับชดเชยเงิน จากการว่างงานจริงๆ จ่ายเงินจำนวน 714 ,268 คน วงเงิน 17,224 ล้านบาท  

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงาน ได้ออกมาตรการช่วยผู้ประกอบการต่างๆในช่วงเดือนมี.. – .ที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หนักๆทำให้ รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อรักษาความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทย จึงให้กิจการที่เป็นที่สุ่มเสี่ยงปิดชั่วคราว และ ทางประกันสังคมก็จ่ายชดเชย 62% จำนวน 90 วันเป็นจำนวนแสนกว่าคน ที่ผ่านมา และบัดนี้สถานประกอบการต่างๆกลับมาเปิดกิจการได้เป็นปกติแล้ว อาทิเช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านนวด ร้านสปา โรงหนัง โรงแรม กิจการต่างๆอีกมากมายเกือบครบถ้วน

 รมว.แรงงาน กล่าวต่อว่าส่วนประเด็นที่ฝ่ายค้านระบุว่า รัฐบาลดูแลผู้ใช้แรงงานไม่ทั่วถึง และขาดมาตราการช่วยหางานใหม่ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆผ่านกระทรวงการคลัง  กระทรวงมหาดไทยกระทรวงเกษตรและสหกรกรณ์ กระทรวงกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานทั้งในระบบและนอกระบน อาทิ โครงการเราไม่ทิ้งกัน โครงการจ้างงานของรัฐ ที่มีการจ้างแล้ว 209 ,930 คน จากเป้าหมาย 410,415 คน   โดยเฉพาะกระทรวงแรงงานเตรียมใช้งบประมาณปี 64 จ้างงานเพิ่มอีก 5,000 คน  และที่ผ่านมาทางกระทรวงแรงงานได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ มีหลักประกันที่ 3% ต่อปี ให้ผู้ประกอบการหรือ(soft loan) วงเงิน 30,000 ล้านบาทเพื่อรักษาผู้ใช้แรงงาน ให้คงมีงานทำ โดยตนจะเข้าไปเร่งรัดให้มีการปล่อยสินเชื่อให้รวดเร็วยิ่งขึ้น หลังจากที่ผ่านมาได้มีการอนุมัติจำนวน 63 รายสามารถรักษาการจ้างงานได้ 8,158 คน คิดเป็นวงเงิน387ล้าน 

รวมทั้งจะผลักดันศูนย์การงานแห่งชาติที่ตัวเองเป็นประธานนั่งกำกับด้วยตัวเองเพื่อจัดหาตลาดงานและจับคู่ตำแหน่งต่างๆที่เหมาะสมให้แก่พี่น้องประชาชนซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานจัดหางานทุกจังหวัดดำเนินภารกิจนี้อย่างเร่งด่วนรวมทั้งผลักดันเรื่องดิจิตอลแพลตฟอร์มแบบOne-stop platform “ไทยมีงานทําผ่านพรก.เงินกู้4แสนล้านบาทเพื่อรองรับแรงงาน400,000ตำแหน่งอีกทั้งยังเป็นช่องทางยกระดับปรับทักษะให้แรงงานเพื่อเข้าสู่อาชีพที่ประชาชนสนใจคาดว่าจะเปิดให้บริหารสิ้นเดือนสค.นี้รวมทั้งเปิดตลาดในต่างๆประเทศโดยผมได้นัดหมายพูดคุยกับสมาคมส่งคนงานไปต่างประเทศเพื่อทราบว่ามีจำนวนต้องการเท่าไหร่อะไรที่ติดขัดทำอย่างไรให้กระทรวงแรงงานช่วยอะไรตรงไหนบ้างเพื่อที่หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายอาทิไต้หวั่นญี่ปุ่นอิสราเอลเกาหลีใต้เป็นต้น

รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนและเร่งสร้างงานฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการจ้างงานมาอย่างต่อเนื่องเปรียบเสมือนเป็นการถอดเครื่องช่วยหายใจในห้องICUเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาให้หายขาดดังนั้นข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำเสนอต้องขอบคุณมากๆแต่อาจเป็นด้านเดียวที่ยังไม่ครบถ้วนทั้งที่เหรียญนั้นมีสองด้านเสมอดังนั้นการแก้ปัญหาเรื่องนี้จึงจำเป็นต้องต้องมานั่งคุยกันแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเพื่อให้ตั้งต้นตรงกันซึ่งผมยินดีเข้าไปรับฟังเพื่อช่วยกันทำงานแบบสร้างสรรค์เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองด้วยกันและพร้อมแก้ไขปัญหาต่างๆไปในทิศทางเดียวกันรมว.แรงงานกล่าว