

เมื่อ 3 ก.ย.64 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่4 ซึ่งมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานที่ประชุม โดยนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นขอหารือต่อนายชวน ถึงการใช้สิทธิอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยใช้โควต้าเวลาของพรรคเพื่อชาติ เนื่องจากถูกพรรคเพื่อไทยกีดกัน แต่ไม่ปรากฏในลำดับรายชื่อการอภิปราย
อย่างไรก็ดีนายชวน ชี้แจงว่า ตนได้รับรายชื่อบุคคลที่อภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งไม่มีชื่อของนายศรัณย์วุฒิ ทั้งนี้นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ทำหนังสือยืนยันรายชื่อเฉพาะที่ผู้ประสานงานของฝ่ายค้านแจ้งชื่อ
ทำให้นายศรัณย์วุฒิ กล่าวด้วยน้ำเสียงโมโห และระบุว่า ตนถูกพรรคเพื่อไทยกีดกันการอภิปราย แบบนี้หรือคืออุดมการณ์ของพรรค ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่าจะให้เวลา 1 ชั่วโมง แต่หลังจากนั้นพบว่ากีดกันตน ทั้งที่เวลาของพรรคฝ่ายค้านยังเหลือ และการอภิปรายของฝ่ายค้านใช้อย่างฟุ่มเฟือย
“แม้ปมจะขอใช้โควตาของพรรคเพื่อชาติ แต่ไม่ยอมให้ผมอภิปราย ผมขอฟ้องประชาชน ว่าพรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์แบบนี้และกีดดัน” นายศรัณย์วุฒิ กล่าว
จากนั้นนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยฐานะวิปฝ่ายค้าน ชี้แจงเรื่องรายชื่อว่า รับรายชื่อมาจากกรรมการ ได้เท่าไรเท่านั้น ตนเห็นใจสมาชิกเพื่อไทย ยืนยันไม่ได้กีดกัน แต่จัดตามเวลา มีหลายคนที่เสนอ แต่นำเสนอ ไม่เห็นรายชื่อ ผู้ควบคุมเสียงปฏิบัติตามที่ส่งมา
ทั้งนี้ นายศรัณย์วุฒิ ใช้สิทธิพาดพิงเพื่อตอบโต้ ว่า ที่จริงพรรคเพื่อไทย ให้เวลา 1 ชั่วโมง แต่ตัดออก ก่อนหน้านั้นเรียกตนไปนำเสนอให้ฟังว่าจะอภิปรายเรื่องอะไร แบบนี้ถือว่ากดดันส.ส.เกินไป และล้วงลูก ตนอยากรู้ว่าคนที่เรียกไปให้นำเสนอนั้นเก่งแค่ไหน ลงส.ส.จะสอบตก ขออภัยประชาชน พรรคเพื่อไทย ทำแบบนี้อุดมการณ์ไม่เหลือแล้ว อย่างไรก็ดีนายชวน วินิจฉัยว่า “ให้หาเวลาคุยกันเอง”