คึกคักสุดๆ บรรดาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ตบเท้าโปรยลูกอ้อน! เรียกคะแนนจากพี่น้องคนกรุงกันยกใหญ่



  • “วิโรจน์​” ลั่นขอทำหน้าที่ ทวงคืนกรุวเทพฯ เมืองที่เป็นธรรม​ เมืองที่ทุกคนเท่าเทียมกัน
  • “พล.ต.อ.อัศวิน​” หยอดคำหวาน โชว์ผลงานที่ผ่านมา ลั่นมีคนชอบก็ต้องคนไม่ชอบ เป็นเรื่องปกติ
  • ด้าน “สกลธี” ยันได้หมายเลข​ 3 ไม่เกี่ยวกับม็อบการเมือง​ แต่สื่อความหมายว่าคือ​ “สกล​Three”
  • “พี่เอ้-สุชัช​วีร์​” เลข 4 เป็นเลขมงคลสำหรับตน ชูความหมายเปรียบดั่ง อริยสัจ 4
  • รับที่ผ่านมาการเมืองรับน้องโหด​ สกัดกั้นมีทุกอย่าง​ แต่ตนเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่​ (31 มี.ค.65) ที่ศาลากลาง​กรุงเทพ​มหานคร​ 2 ดินแดง​ นายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์หลังการจับสลากผู้สมัครว่าราชการ​กรุงเทพ​มหานคร​ โดยได้เบอร์​ 1 ว่า​ เลข​ 1 เป็นเลขที่นำเมืองที่เป็นธรรมให้กับคนกรุง​เทพ​ฯ​ ได้เวลาที่ชาวกรุง​เทพฯจะเป็น​ 1 เสียที่​ จากนี้ก็จะหาเสียงตามแผน ไปพบปะพี่น้องประชาชน​ นำเสนอนโยบายจุดยืนในการคืนเมืองที่เป็นธรรม​ เมืองที่ทุกคนเท่าเทียมกัน

ทั้งนี้หากชนะการเลือกตั้ง จะบริหารงบประมาณและทรัพยากรเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต​ชาวกรุงเทพฯ​ ให้สมกับที่เราเป็นผู้เสียภาษี​ อีกส่วนสำคัญคือ ส.ก.ที่ทำงานเกี่ยวกับงบประมาณ​ ผู้ว่าฯ เดินนโยบาย​ ส.ก.เป็นผู้ขับเคลื่อน​ เราจะนำคืนความเป็นหนึ่งในกับคนกรุง​เทพ​ฯ

“เราต้องการให้ประชาชนเป็นที่หนึ่ง​ ประชาชนเป็นผู้ถูกคิดถึงเป็นลำดับแรก​ในการทำนโยบาย​ จัดสรร​ทรัพยากร​ มันถึงเวลาที่งบประมาณ​ทั้งหมดจะต้องไตร่ตรอง​ และคิดถึงผลประโยชน์​ของประชาชนเป็นที่หนึ่ง​ ไม่ใช่ไปเอื้อให้กับนายทุน​ เครือข่ายผู้รับเหมา​ ภาษีของเราต้องไม่ประเคน​ให้กับนายทุนเพื่อแลกกับโครงการห่วยๆอีกต่อไป​ ผมคิดว่าประชาชนเป็นที่หนึ่งก็ได้ดั่งใจ​ เราไม่ได้คาดหวังอะไร​ เพราะการจับสลากก็เป็นการสุ่ม แต่เราคิดว่าประชาชนก็ต้องเป็นที่​ 1” นาย​วิโรจน์​ กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน​ ขวัญเมือง​ ที่จับสลากได้หมายเลข​ 6 กล่าวว่า​ ตนคิดว่าประชาชนจะชอบหมายเลขนี้​ และเลขนี้เป็นเลขนำโชคของตนเองอยู่แล้ว​ ประชาชนเขาชอบอยู่แล้ว​ จากนี้ก็จะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ เพื่อหาเสียงทันที​

“ฝากถึงประชาชนด้วย​ ผม พล.ต.อ.อัศวิน​ ขวัญเมือง​ อดีตผู้ว่าฯกทม.​ เบอร์​ 6 ถ้าอยากให้กลับมาทำงานใหม่ ขอให้เลือกเบอร์​ 6 ตอนนี้ก็ต้องทำความเข้าใจชี้แจงประชาชนกันว่า สิ่งที่เราทำไปแล้วคืออะไร​ อยากให้เขารู้ว่าเราทำงานมากว่า​ 5 ปีนั้น​ อยากให้รู้ว่าทำอะไรบ้าง​ ซึ่งจริงๆก็ทำไปเยอะ แต่อะไรทั้งหลาย​ทั้งปวง​ มีทั้งคนชอบและคนชัง​ ไม่มีคนรักทั้งหมด และไม่มีคนชังทั้งหมด​ แต่ให้คนรักมากกว่าก็โอเค” นายอัศวิน​ กล่าว​

ด้านนายสกลธี​ ภัททิยกุล​ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ โดยจับสลากได้หมายเลข​ 3 กล่าวว่า​ เลข​ 3 มันสามารถเล่นคำได้​ 3 ภาษาอังกฤษคือ​ Three ก็คือ “สกลธี​“ และเป็นเลขตัวเดียว​ แต่เรื่องตัวเลขก็ไม่สำคัญ​ ถ้าประชาชนเลือก​ จะเลขไหนก็ได้​ แต่เลขตัวเดียวอาจจะง่ายหน่อยในการชูนิ้วตอนหาเสียง​

ทั้งนี้เมื่อถามว่าเลข​ 3 อาจจะมองในเรื่องการเมือง​ นายสกลธี​ กล่าวว่า​ ก็อาจจะมองได้หลายอย่างทั้งเรื่องการเมือง​​ หรือชาติ​ ศาสนา​ พระมหากษัตริย์​ เป็นไปได้ทุกอย่างอยู่ที่ว่าเราจะมอง​ สิ่งที่ตนอยากจะนำเสนอคือตัวตนของเรา​ในอดีตก็คงจะปฏิเสธไม่ได้​ เพราะเป็นโครงการของเราในช่วงนั้นๆ​

“แต่ในการทำงานหน้าที่ต้องแยกแยะในส่วนนั้น​ ซึ่งตนด็ได้รวบรวมคนจากหลากหลายสาขาอาชีพ​ บางคนก็มีแนวคิดการเมืองไม่เหมือนตน​ แต่ก็มาร่วมกันได้​ เพราะอยากทำให้กรุงเทพฯ​ดีขึ้น​ ซึ่งตั้งแต่ตนลาออก​จากตำแหน่งรองผู้ว่าฯ​ และเปิดตัวว่าจะสมัครผู้ว่าฯ​ ก็ดีขึ้นมากๆ” นายสกลธี กล่าว

ด้านนายสุชัช​วีร์​ สุวรรณสวัสดิ์​ อีกหนึ่งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ที่จับได้หมายเลข​ 4 กล่าวว่า​ ตนเกิดเดือนสี่​ และความหมายของเลขสี่ คือหนทางของการดับทุกข์​เป็นอริยสัจ​ 4 และตนยังจบมหาวิทยาลัย​พระจอมเกล้า​เจ้าคุณ​ทหาร​ลาดกระบัง​ เลข ​4 เป็นเลขมงคลมาก และรู้สึกดีใจสุดๆ ที่จับได้หมายเลข 4 ​

ทั้งนี้เมื่อกลุ่มสื่อมวลชนถามว่า​ เมื่อได้เห็นหน้าตาของผู้สมัคร​แต่ละคนแล้ว​ มีความมั่นใจอย่างไร้​ นายสุชัช​วีร์​ กล่าวว่า​ มาถึงตรงนี้ก็ต้องมีความมั่นใจเต็มที่​ และจะไม่ทำให้พวกท่านผิดหวัง​ มาอยู่ตรงนี้จะมากลัวใคร​ ต้องทำหน้าที่สุดความสามารถอยู่แล้ว​ ทำทุกวันให้ดีที่สุด​ วันนี้ตื่นเต้น​แต่ก็มีความสุขที่สุด​ เส้นทางวันนี้จนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง​ จะทำสุดความสามารถจริงๆ​ จากนี้ไปก็ยังไม่รู้​ เพราะการเมืองมีหลายเรื่อง​ เราก็ดูในสิ่งที่เราทำได้ทุกวันๆ ให้ดีที่สุด

นอกจากนี้เมื่อถามว่า​ ที่ผ่านมาก็โดนหนักถึงขั้นโดนตรวจสอบทรัพย์สิน​ นายสุชัช​วีร์​ กล่าวว่า​ ไม่เลย​ เพราะตนเตรียมตัวเตรียมใจมา​ และอยากให้ทุกคนรู้ว่าการเมืองมันโหด​ มันรุนแรง​ การสกัดกั้นมีทุกอย่าง​ ตนอยากให้น้องๆ ที่มีความรู้ความสามารถที่เก่งกว่าผม​ ให้ได้เห็น​ และไปให้ถึง​ทำให้ได้​ เพราะในอนาคตข้างหน้า จะได้มีคนเก่งๆ ดีๆ ก้าวออกมา ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ