“คีรี”สร้างความมั่นใจผู้ใช้รถไฟฟ้าสีเหลืองสั่งเร่งตรวจสอบล้อทั้งหมด

“คีรี”เปิดใจกรณีล้อประคองสายสีเหลืองหล่น ขอโทษผู้ใช้บริการ สั่งเร่งตรวจสอบล้อทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน

  • Alstom เร่งสรุปสาเหตุภายใน1 เดือน
  • วันจันทร์ ที่ 8 ม.ค.พร้อมให้บริการ 21 ขบวน

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง เปิดเผยถึงกรณีเหตุล้อประคองหลุดร่วงจากขบวนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ว่าก่อนอื่นต้องข้อโทษผู้ใช้บริการ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ ยอมรับว่าสิ่งที่สูญเสียขณะนี้คือชื่อเสียงที่ทำมาตลอด 30 ปี โดยเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวที่ประเทศจีน แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องแก้ไขและรับผิดชอบรวมทั้งทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าระบบโมโนเรลเกิดความเชื่อมั่นมากที่สุด โดยรถไฟฟ้าระบบโมโนเรลมีใช้ในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ฝรั่งเศสและจีน

สำหรับล้อที่เกิดอุบัติเหตุ เป็นล้อประคองสองข้างที่ทำให้รถไฟฟ้าสามารถเคลื่อนตัวได้ โดย 1 ขบวนมีข้างละ 24 ล้อ หรือรวมสองข้าง 48 ล้อ โดยล้อประคองมีหน้าที่ทำให้ล้อทั้งหมดมีความมั่นคง ซึ่งแม้ล้อประคองจะหลุดออกไปแต่ขบวนรถยังสามารถใช้งานได้ หลังจากนี้จะจัดซื้ออะไหล่ใหม่ทั้งหมด 30 ขบวน และจะตรวจสอบล้อของรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี ด้วยเช่นกัน

นายคีรี กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า โมโนเรลมีความปลอดภัยและในโลกนี้ก็ใช้ระบบโมโนเรลกันเยอะ และในสมัยนายโสภณ ซารัมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้นศึกษาว่ามีความเหมาะสม ในฐานะผู้รับสัมปทานก็ต้องดำเนินการตามที่ทีโออาร์กำหนด

สำหรับกรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ได้พูดถึงเรื่องแบล็คลิสต์หรือบทลงโทษกับบริษัทที่ทำสัมปทานกับรัฐ หากเกิดอุบัติเหตุลักษณะดังกล่าว มองว่าเป็นการพูดด้วยความหวังดี ซึ่งก็คิดว่าเป็นข้อดีทำให้การก่อสร้างได้มาตรฐานความปลอดภัย เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อน ส่วนกรณีที่สภาองค์กรของผู้บริโภค เสนอติดตะแกรงกันล้อร่วงในรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู มองว่าในความเป็นจริงยังไม่มีประเทศที่ใช้ระบบโมโนเรลทำกันและไม่ใช่สิ่งที่ระบบนี้ใช้อยู่

ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) กล่าวว่าคาดว่าในเย็นวันที่ 4 ม.ค.นี้ จะสามารถให้บริการได้ทั้งหมด 11 ขบวนจากทั้งหมด 30 ขบวน โดยเพิ่มความถี่เป็น 10 นาทีต่อขบวน และคาดว่า จะให้บริการครบ 21 ขบวนในวันจันทร์นี้ คาดว่า จะตรวจสอบความปลอดภัยของล้อเสร็จก่อนในวันเสาร์นี้จะสามารถเก็บค่าโดยสารได้ตามปกติ ขณะบริษัท Alstom (ผู้ผลิต) อยู่ระหว่างตรวจสอบชุดล้อประคองที่หลุดออกมา เพื่อหาสาเหตุสรุปภายใน1 เดือน

“ยืนยันว่า ระบบการซ่อมบำรุงของ alstom ดีที่สุดในลำดับต้นๆของโลก ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทนี้เป็นกิจการของบริษัทบอมบาเดีย แต่ขายกิจการให้กับ alstom จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเลือกบริษัทที่มีชื่อเสียงมีคุณภาพรวมถึงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดโดยเฉพาะเทคโนโลยีที่จะมีการถ่ายทอดให้กับพนักงานในบริษัทต่อไป”นายสุรพงษ์ กล่าว