คาดผลประกอบการดี-วัคซีนคืบหน้า ดันดาวโจนส์บวกกว่า 200 จุด



  • ไฟเซอร์ อิงค์-BioNTech แถลงได้รับ “fast track” จาก FDA ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19
  • ตลาดยังจับตาผลการระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 หลังผู้ติดเชื้อใหม่ยังสูงต่อเนื่อง
  • นักลงทุนรอเก็งกำไรหุ้นน้ำดี ที่จะทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2

เมื่อเวลา 21.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 26,292.78 จุด เพิ่มขึ้น 217.48 จุด หรือ +0.86% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,733.66 จุด เพิ่มขึ้น 116.22 จุด หรือ +1.09% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,205.18 จุด เพิ่มขึ้น 20.14 จุด หรือ +0.63%

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง หลังนักลงทุนมีความหวังที่การผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 มีความคืบหน้า

ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี ออกแถลงการณ์ว่า ทั้งสองบริษัทได้รับสถานะ “fast track” จากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 โดยได้รับการผ่อนคลายกฎระเบียบบางอย่าง ทำให้การพัฒนาวัคซีนเป็นทำได้รวดเร็วมากขึ้น

โดย วัคซีน รุ่น BNT162b1 และ BNT162b2 ถือเป็นวัคซีน 2 ตัวที่มีความคืบหน้ามากที่สุดของไฟเซอร์ และ BioNTech จากทั้งหมด 4 ตัว และหากวัคซีนดังกล่าวได้รับการอนุมัติจาก FDA ทางบริษัทจะสามารถผลิตวัคซีนจำนวน 100 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ และมากกว่า 1.2 พันล้านโดสภายในสิ้นปีหน้า

ขณะที่บริษัทเป๊ปซี่โค เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จากการที่ผู้บริโภคแห่ซื้อเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว เนื่องจากต้องใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น ตามมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังหลายประเทศมีการระบาดของโควิด-19 รอบสอง ขณะที่ในสหรัฐจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันยังคงสูงมาก โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ เผยแพร่เอกสารการวางแผนรับมือการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 (COVID-19 Pandemic Planning Scenarios) ฉบับล่าสุด ซึ่งระบุว่า ราว 40% ของผู้มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ไม่ได้แสดงอาการของโรคออกมา แต่ยังแพร่เชื้อได้ โดยประเมินว่าผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการมีอัตราการแพร่เชื้ออยู่ที่ 75% เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่แสดงอาการของโรค

นักลงทุนติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมา ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะการคาดหมายการกำไรในกลุ่มธนาคารพาณิชย์