“คลัง “ โชว์ 7 เดือน จัดเก็บรายได้เกินเป้า 3.7% รวม 1.276 ล้านล้านบาท



  • ลุ้นรัฐออกมาตรการ “คนละครึ่งเฟส 5”
  • เพราะมีเงินใช้จ่ายแล้ว
  • รายได้สรรพากรทะลุเป้า

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังว่า การจัดเก็บรายได้ในช่วง 7 เดือนของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.2564 -เม.ย.2565)  รัฐสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.276 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 45,800 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 3.7 %  และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สูงกว่า 4.5 % ทั้งนี้เป็นผลจากเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว และการนำเข้าของวัตถุดิบเพื่อการลงทุน  โดยปีงบประมาณ 2565 รัฐบาลตั้งงบประมาณรายจ่ายไว้ในงบประมาณที่ 3.1 ล้านล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณขาดดุล 700,000  ล้านบาท

สำหรับภาษีที่มีการจัดเก็บรายได้เพิ่ม และสูงกว่าเป้าหมาย มาจากกรมสรรพากร ในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต) ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นต้น ซึ่งเป็นผลจากการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ทำให้จัดเก็บภาษีแวตเพิ่มขึ้น โดยช่วง 7 เดือนของปีงบประมาณ กรมสรรพากร สามารถจัดเก็บรายได้รวม1.003 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 127,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.5 %

ขณะที่กรมสรรพสามิต  จัดเก็บรายได้ 320,000 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวปีที่ก่อน  11,100 ล้านบาท หรือ ลดลง3.3%  เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เป็นการชั่วคราว  3 เดือน (20 ก.พ -20 พ.ค.65)​ สูญรายได้ 17,000 ล้านบาท และยังมีการต่อมาตารการลดภาษีน้ำมันอีก แต่ลดภาษีน้ำมันดีเซลเป็น 5 เดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน (21พ.ค.-20 ก.ค.65 ) ทำให้สูญรายได้อีกราว 19,800 ล้านบาท รวมถึงมีการเลื่อนการนำส่งรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)​ จากเดือนเม.ย.2565 เป็นเดือนพ.ค.65  ส่วนกรมศุลกากรจัดเก็บรายได้อยู่ที่ 61,700 ล้านบาท  สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 2,830 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.8% 

ผู้สื่อข่าวรายงานงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวว่า การออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและเยียวยาฟื้นเศรษฐกิจในประเทศนั้น ต้องรอดูสถานการณ์การจัดเก็บรายได้ของภาครัฐก่อนตัดสินใจ และเมื่อทราบตัวเลขรายได้ของเดือนเม.ย.นี้ กระทรวงการคลัง จะพิจารณามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศอีกครั้งในเร็วๆนี้ 

เช่นเดียวกับนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า  หากรัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้ได้เกินกว่าเป้าหมาย ทางกระทรวงการคลัง ก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้นำรายได้ส่วนเกินดังกล่าวไปใช้เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงนี้ โดยชณะนี้กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างพิจารณาการออกมาตรการคนละครึ่งระยะที่ 5 หรือ คนละครึ่ง เฟส 5  ซึ่งคาดว่ากระทรวงการคลัง จะพิจารณาในเร็วๆนี้