คลัง เผย ประชาชนขอกู้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สะสมกว่า 7,700 ล้านบาท



  • เหลือสินเชื่อคงค้าง 143,303 บัญชี
  • มีหนี้เสียสะสมรวม 557.53 ล้านบาท

นายพรชัย  ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนส.ค. 2563 ภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) มีผู้ที่ได้รับอนุญาตจากรมว.คลังให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 846 ราย ใน 72 จังหวัด

อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน  501 ราย รองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง จำนวน 132 ราย ภาคเหนือ จำนวน 113 ราย ภาคตะวันออก จำนวน 59 ราย และภาคใต้ จำนวน 41 ราย ตามลำดับ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2559 ที่กระทรวงการคลังได้เปิดให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์จนถึงสิ้นเดือนก.ค. 2563 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 307,501 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 7,771.26 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 25,272.29 บาทต่อบัญชี

ขณะที่ภาพรวมสถานะสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนก.ค. 2563 มียอดสินเชื่อคงค้างจำนวนทั้งสิ้น 143,303 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 3,358.58 ล้านบาท โดยมีสินเชื่อค้างชำระ 1 – 3 เดือน สะสมรวมทั้งสิ้น 17,776 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 464.49 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13.83% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม

 และมีสินเชื่อค้างชำระที่เกินกว่า 3 เดือน หรือ เอ็นพีแอล (NPL) สะสมรวมจำนวน 23,924 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 557.53 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.60% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม ซึ่งมีแนวโน้มลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับยอด NPL ของเดือนมิ.ย. 2563 ซึ่งอยู่ที่ 16.84%